ไขปริศนา ปางพระนาคปรกจิตแห่งพุทธปัญญา


<
ไขปริศนา "ปางพระนาคปรก" จิตแห่งพุทธปัญญา มาปรกคุ้มครองพระพุทธเจ้า

พระพุทธองค์ประทับใต้ต้นมุจจลินท์ หรือต้นควงไม้จิก เสด็จไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นมหาโพธิ์ ห่างไป ๑.๗ กิโลเมตร

ในพุทธประวัติกล่าวว่า ครั้งนั้นได้เกิดพายุฝนตกลงมาตลอดทั้ง ๗ วัน ๗ คืน พญานาคนามว่า “มุจจลินท์” จึงขึ้นจากบาดาลมาขนดล้อมรอบพระวรกายพระพุทธเจ้า ถึง ๗ รอบ  และแผ่พังพานใหญ่เพื่อปกป้องพระองค์จากพายุฝนและสัตว์ร้าย

ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต แล้วพระพุทธเจ้าทรงเปล่งคำอุทานว่า

"ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้มีธรรมได้สดับแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามเป็นจริงอย่างไร, ความไม่เบียดเบียนคือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก, ความนำอัสมิมานะ คือถือว่าตัวตนให้หมดได้ เป็นสุขอย่างยิ่ง."

พระพุทธเจ้าพิจารณาความสงัด แม้กระทั่งว่าฝนตก ก็ถือว่ามีความสงัดอยู่ เพราะฝนตกจะมาเกี่ยวข้องหรือครอบงำจิตใจของพระพุทธเจ้าให้ละความเพียรไม่ได้ ความสงัดไม่ใช่ว่าจะไม่มีเสียง แต่เสียงนั้นเข้าไปเกี่ยวจิตของพระพุทธเจ้าไม่ได้ นี่แหละ "ความสงัด"

ยกตัวอย่างเช่น เราไปอยู่ท่ามกลางผับ เสียงเพลงดังมากเลย แต่จิตของเราสงัดได้ ข้างนอกเกี่ยวเราไม่ได้ นี่แหละความสงัด ถ้าเราแปลความสงัดผิด เราก็หลงทาง ต้องไปแสวงหาที่อยู่ป่าช้า หรือที่ไม่มีคนอยู่อาศัย อย่างนี้ก็ไม่ได้ เราต้องฝึกสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกี่ยวใจเรา เมื่อสิ่งแวดล้อมเกี่ยวใจเราไม่ได้ ฉะนั้น เราจะอยู่ที่ไหนก็ได้ก็เกิดความสงัด

จนกระทั่งเมื่ออากาศปลอดโปร่งดีแล้ว พญานาคมุจจลินท์จึงคลายขนดนาคออก แล้วจำแลงตนแปลงกายเป็นชายหนุ่มเข้ามาถวายอัญชลีกราบพระพุทธเจ้า

ในเหตุการณ์เช่นนี้ คำว่าพญานาคมุจจลินท์มานั่งปรกพระพุทธเจ้าตลอดทั้ง ๗ วัน เป็นปริศนาธรรมก็คือ จิตของพระพุทธเจ้ามาปรกพระพุทธเจ้า เพราะจิตของพระพุทธเจ้าเห็นว่าสิ่งนี้ดี จิตของพระพุทธเจ้าจึงทำดีต่อไป

ซึ่งขณะนั้นฝนตกตลอดเลย และจิตของพระพุทธเจ้ารู้ว่าฝนนี้ดี ตกมาแล้วเราชื่นช่ำ ฝนตกก็เหมือนไม่ตก

ฉะนั้น จิตของพระพุทธเจ้ามีเป็นปรกขึ้นมา ฉะนั้น พระพุทธเจ้านั่งเสวยสุขอยู่ตรงนั้น แม้ฝนจะตกตลอด ๗ วันก็ยังไม่เป็นไร นี่แหละ จิตของพระพุทธเจ้ามาปรกคุ้มครองพระพุทธเจ้า

จิตของพระพุทธเจ้าย่อมสูงกว่าสิ่งต่างๆ ย่อมเข้าใจกว่า แต่พระพุทธเจ้าย่อมเอื้อโอกาสให้ได้แสดงกรรมเพื่อเจริญธรรม

จิตของพระพุทธเจ้า ก็คือ "ปัญญาญาณ" แห่งพุทธองค์มาปรกพระพุทธเจ้า แต่รูปที่แสดงให้คนเห็นนั้น พระพุทธเจ้าเอื้อให้เป็นลักษณะรูปของพญานาค

หรือจะพูดง่ายๆ ว่า แม้แต่สัตว์ยังรู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐ ตนต้องมาทำหน้าที่นั้น ความหมายปริศนาธรรมเป็นเช่นนั้น

สิ่งที่มาปรกพระพุทธเจ้าก็คือ "บารมี อภิปัญญาญาณของพระพุทธเจ้า"

พระพุทธเจ้าจึงไม่มีจิตที่จะเบื่อหน่าย คลายจากการเสวยวิมุตติสุข ณ ตรงนั้น เพราะพระพุทธเจ้ากำลังเสวยวิมุตติสุขกับสิ่งที่ตนเองตรัสรู้ธรรมนั้น ดื่มด่ำกับธรรมะที่พระองค์ทรงตรัสรู้นั้น การดื่มด่ำก็เปรียบเสมือนกับฝน ถ้าพระพุทธเจ้าไม่สำเนียกตรงนี้พระพุทธเจ้าก็ต้องลุกจากที่นั่งสมาธิ ณ ตรงนั้น ก็ต้องวุ่นวายใจ แม้ว่าฝนตกพระพุทธเจ้าก็ยังมีปิติสุข ณ ตรงนั้น

เหมือนกับบางท่าน ฝนรั่ว ก็นั่งนอนดูเม็ดฝนที่ตกจากหลังคาได้ จิตใจไม่กระวนกระวาย

   




 6,753 

  ความคิดเห็น


RELATED STORIES



จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย