การสวดมนต์ไล่โควิดไม่ได้ แต่เป็นการให้กำลังใจทางจิตวิญญาณ

ส่วนยารักษาโรคเป็นการป้องกันทางอินทรีย์ ร่างกาย

ไปทะเลาะกันเอง เพราะว่าไปแบ่งค่าย ว่าอินทรีย์ กับวิญญาณ

การสวดมนต์เป็นความรู้สึกทางด้านจิตวิทยา รูปแบบสาธารณสุข เป็นการป้องกันแบบอินทรีย์

ทั้ง ๒ ฝ่ายอย่ามาทะเลาะกัน เพราะว่าสำคัญทั้ง ๒ ฝ่าย

ทำพร้อมกันเถอะ เรือแจว ๒ ฟากไม่ได้เหรอ แจว ๒ ข้างก็ยังดีกว่าแจวข้างเดียว แล้วเอา ๒ ข้างมาตีกันเองก็เลอะเทอะ

เรือช่วยกันแจว ๒ ฝัง รู้หน้าที่ฝังของตัวเอง ช่วยกันแจวเรือก็วิ่งไปได้สวย แต่ถ้าบอกว่าแจวข้างเดียวมันก็ช้า แล้วถ้าเอา ๒ อันมาตีกันด้วยก็เลอะเทอะ
เรือไม่ได้จมเพราะโควิด แต่เป็นเพราะเราตีกันเอง

สาเหตุที่พระท่านต่อต้านกันเอง เพราะว่าขาดภูมิปัญญา ไม่แยกแยะ แยะดูไม่ได้ และรวมกันไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำไมอย่างนี้ ที่จริงคนละด้าน
ปกติเราไม่ได้สอนวิธีคิดให้ครบองค์ก็จะเป็นเช่นนี้

เราสวดมนต์เพื่อให้ตัวเรามีจุดสรณะ ไม่ตื่นตระหนก

ร่างกายของเราก็จะแข็งแรง

ในเมื่อมีความแข็งแรง ก็จะมีการป้องกันภัยที่ดีกว่า

สวดมนต์เพื่อไล่โควิด เป็นไปไม่ได้ ต่อให้คุณหมอมียาก็ยังไล่โควิดไม่ได้ ใช้ภาษาห้วนเกินไป

ป้องกันให้ตัวเองให้แข็งแรง ให้เซลล์ของเราแข็งแรง

การสวดมนต์จะทำให้จิตใจเราเข้มแข็ง จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว พอเราจิตใจดี เซลล์ต่างๆ ในร่างกายของเราก็จะเข้มแข็ง ข้างในมีการตื่นตัวที่จะมีการปกป้องตัวเอง ได้แก่ เซลล์ต่างๆ เม็ดเลือดขาว ก็เหมือนกับการทหาร ถ้ามีการโบกธงออกรบ ก็ทำให้จิตใจห้าวหาญ

ขอให้ทุกคนมีสติสัมปชัญญะมากขึ้น
ขอให้ทุกคนใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหา
อย่าใช้แต่อารมณ์ตื่นตระหนกแก้ปัญหา
มันจะวุ่นวายหมด

ยกตัวอย่าง ซื้อของแย่งกัน ตีกัน
ไม่ใช่ว่าจะตายเพราะโรคโควิด แต่จะตายเพราะว่าแย่งอาหารกัน