ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวีตถี ทรงปรารภธิดาของตระกูลอุปัฏฐากพระอัครสาวกทั้งสอง
(พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ) นางหนึ่งผู้สามารถทำให้ครอบครัวสามีเป็นมิจฉาทิฏฐิกลับเป็นสัมมาทิฏฐิ
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาเนื้อมีผิวพรรณดุจทอง มีนางเนื้อผู้ภรรยาที่น่ารัก
ปกครองเนื้อประมาณ ๘๐,๐๐๐ ตัว อาศัยอยู่ป่าแห่งหนึ่ง
อยู่มาวันหนึ่ง
พญาเนื้อนั้นพาบริวารออกหากิน เท้าได้ติดบ่วงนายพราน พยายามดิ้นสุดชีวิตหวังให้บ่วงขาด
บ่วงกลับยิ่งรัดเข้าติดกระดูกข้อเท้า สร้างความเจ็บปวดทรมานอย่างยิ่งจึงร้องขึ้นว่า
"เราติดบ่วงแล้ว
พวกท่านจงพากันหนีไป" หมู่เนื้อพอได้ยินก็พากันหนีไป
ส่วนนางเนื้อภรรยาวิ่งหนีไปได้หน่อยหนึ่งไม่เห็นสามีวิ่งตามมาด้วย
จึงวิ่งย้อนกลับไปที่เดิม เห็นสามีติดบ่วงอยู่จึงร้องไห้คร่ำครวญ
ว่า
"พี่..
ท่านเป็นผู้มีกำลังมาก พยายามดึงบ่วงให้หลุดเถิด น้องอยู่คนเดียวในป่านี้โดยไม่มีพี่ไม่ได้นะ"
พญาเนื้อตอบภรรยาว่า
"น้อง..พี่ได้พยายามแล้ว แต่บ่วงมันไม่ขาด มันยิ่งรัดแน่นเข้าจนเท้าพี่จะขาดแล้วละ"
นางเนื้อภรรยาพูดปลอบใจสามีว่า
"พี่ไม่ต้องกลัว น้องจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เอง ถ้าพี่ตายน้องขอตายด้วย
น้องจะอ้อนวอนให้นายพรานเห็นใจปล่อยพวกเราไป ถ้าเขาไม่เห็นใจ
น้องขอตายแทนพี่เอง" แล้วได้ยืนอยู่กับสามีผู้ชุ่มด้วยเลือดนองเท้่าอยู่ที่นั่นเอง
เวลาผ่านไปไม่นานนัก
นายพรานเจ้าของบ่วงเดินถือหอกและดาบมาถึง นางเนื้อได้ออกมายืนต่อหน้านายพรานไหว้แล้วพูดว่า
"ท่านนายพรานผู้เจริญ สามีข้าพเจ้าเป็นพญาเนื้อ เพียบพร้อมด้วยศีลและมารยาทดีงาม
ปกครองเนื้อ ๘๐,๐๐๐ ตัว ก่อนที่ท่านจะฆ่าเขาขอให้ท่านฆ่าข้าพเจ้าก่อนเถิด"
นายพรานพอได้ฟังก็ปลื้มใจแทน คิดว่า "แม้แต่มนุษย์เองก็ไม่มีใครเสียสละชีวิตตนเพื่อสามีเลย
นางเนื้อตัวนี้กลับกล้าทำ และยังพูดเป็นภาษามนุษย์ที่ไพเราะยิ่งนัก
เราจักให้ชีวิตแก่เนื้อสองตัวนี้" จึงพูดตอบไปว่า"แม่เนื้อ
เราไม่เคยได้ยินได้เห็นเนื้อพูดได้ ขอให้ตัวเจ้าและพญาเนื้อจงอยู่เป็นสุขเถิด
เราปล่อยพวกเจ้าไปละ" ว่าแล้วก็ตัดบ่วงที่เท้าพญาเนื้อทำบาดแผลให้แล้วก็ปล่อยไป
นางเนื้อปลาบปลื้มใจยิ่งพูดขอบคุณนายพรานว่า
"นายพรานผู้เจริญ ขอขอบคุณท่านเป็นอย่างสูงยิ่ง ขอให้ท่านและครอบครัวจงจำเริญสุขยิ่ง
ๆ ขึ้นไปด้วยเทอญ" ก่อนจากไปพญาเนื้อได้คาบแก้วมณีก้อนหนึ่งมาให้แก่นายพรานพร้อมให้โอวาทว่า
"ท่านนายพราน ต่อแต่นี้ไปขอให้ท่านเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเสียเถิดจงทำบุญรักษาศีลให้ทานด้วยแก้วมณีนี้เถิด"
กล่าวจบก็อำลานายพรานเข้าป่าไป
|