ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
ทรงปรารภพระจูฬปิณฑิกปาติกติสสเถระ ผู้ติดในรสตกอยู่ในอำนาจนางวัณณทาสี
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ในเมืองพาราณสี มีชายเฝ้าสวนหลวงของพระเจ้าพรหมทัตคนหนึ่งชื่อว่า
สัญชัย ในสวนหลวงนั้นจะมีเนื้อสมันตัวหนึ่งแวะแอบมากินหญ้าอยู่เป็นประจำ
เมื่อมันเจอนายสัญชัยก็จะวิ่งหนีเข้าป่าไป
แต่เขาไม่เคยทำให้มันตกใจกลัวเลยสักครั้งเดียว
จึงทำให้มันแวะเข้ามาในสวนหลวงนั้นบ่อย ๆ
ในเวลาเช้าตรู่ทุกวัน นายสัญชัยจะนำผลไม้ชนิดต่างๆ
ไปถวายพระราชาเป็นประจำ
วันหนึ่ง พระราชา
ตรัสถามเขาว่า "
เธอได้เห็นความอัศจรรย์อะไร ในสวนหลวงบ้างไหม
? "
เขาจึงกราบทูลไปว่า
" ไม่พบสิ่งใดเลย
พระเจ้าค่ะ มีเพียงเนื้อสมันตัวหนึ่ง แวะเวียนมาแทะหญ้าในสวนหลวง
พระเจ้าค่ะ "
พระราชาตรัสถามว่า
" เธอสามารถจับมันได้ไหม
? "
เขากราบทูลว่า
" ถ้าได้น้ำผึ้ง
ข้าพระองค์ สามารถนำมันมาในพระราชนิเวศน์นี้ได้
พระเจ้าค่ะ "
พระราชา จึงรับสั่งให้มอบน้ำผึ้งแก่เขา
เขานำน้ำผึ้งไปทาที่หญ้าตรงที่เนื้อสมันเคยมาเที่ยวกิน
วันต่อมา เจ้าเนื้อสมันพอได้กินหญ้าเจือน้ำผึ้ง
ก็ติดในรสชาติ จึงมาในที่นั้นทุกวัน เขาปรากฏตัวให้มันเห็นเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย
ในสองสามวันแรกมันจะวิ่งหนีไป พอวันต่อๆมา
มันเห็นเขาบ่อยๆ ก็เกิดความคุ้นเคย ถึงกับกินหญ้าที่อยู่ในมือของเขา
เมื่อเขารู้ว่ามันคุ้นเคยแล้ว วันหนึ่ง จึงให้เอาเสื่อล้อมถนนไปจนถึงพระราชนิเวศน์
แล้วปักกิ่งไม้ไว้ตามเสื่อนั้น สะพายน้ำเต้าบรรจุน้ำผึ้ง
โปรยหญ้าทาน้ำผึ้ง เดินนำหน้าเนื้อสมันเข้าไปในพระราชนิเวศน์
เมื่อมันเข้าไปภายในพระราชนิเวศน์แล้ว ผู้คนจึงปิดประตูเมือง
เนื้อสมันนั้นเห็นผู้คนจำนวนมาก ก็ตัวสั่นกลัวความตายวิ่งไปวิ่งมาในพระลานหลวงนั้น
พระราชา เสด็จลงจากปราสาททอดพระเนตรเห็นเนื้อนั้นตัวสั่นอยู่
จึงตรัสว่า "
ธรรมดา เนื้อย่อมไม่ไปยังที่มีคนเห็นตลอด
๗ วัน และจะไม่ไปยังที่ถูกคุกคามตลอดชีวิต
แต่เจ้าเนื้อสมันป่าตัวนี้ ติดในรสน้ำผึ้ง
จึงได้มาสู่สถานที่มีผู้คนมากเช่นนี้ ท่านทั้งหลาย
ชื่อว่า สภาวะที่เลวกว่าความอยากในรส ไม่มีในโลก
" แล้วตรัสพระคาถาว่า
"
ได้ยินว่า สภาวะอย่างอื่นที่จะเลวยิ่งไปกว่ารสทั้งหลาย
ย่อมไม่มี รสเป็นสภาวะที่เลว
แม้กว่าถิ่นที่อยู่
แม้กว่าความสนิทสนม นายสัญชัยผู้เฝ้าสวน นำเนื้อสมัน
ซึ่งอาศัยอยู่ในป่าทึบมาสู่อำนาจของตนได้
เพราะรสทั้งหลาย "
เมื่อตรัสแล้วจึงรับสั่งให้ปล่อยเนื้อสมันตัวนั้นเข้าป่าไปตามเดิม
|