ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
ทรงปรารภประโยชน์การทำพลีกรรมอ้อนวอนแก่เทวดา
เรื่องมีอยู่ว่า สมัยนั้น มนุษย์ส่วนมาก เมื่อจะไปค้าขายหรือทำงานต่างประเทศ
มักจะฆ่าสัตว์ทำพลีกรรมแก่เทวดา ปรารถนาความสำเร็จประโยชน์โดยไม่ให้ขัดข้องอยู่เสมอๆ
และเมื่อกลับมาถึงบ้านโดยความปลอดภัยแล้ว
เข้าใจว่า เป็นผลที่เกิดจากอานุภาพของเทวดา
จึงฆ่าสัตว์เป็นอันมากทำพลีกรรม เพื่อปลดเปลื้องการอ้อนวอนของตนนั้น
พวกภิกษุเห็นเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว จึงทูลถามพระพุทธองค์ว่า
" ประโยชน์ของการอ้อนวอนและทำพลีกรรมนี้มีอยู่หรือ
? " พระพุทธองค์จึงได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก
ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ในแคว้นกาสี มีพ่อค้าคนหนึ่ง เมื่อจะออกจากบ้านไปทำการค้าขาย
ได้ไปบนบานศาลกล่าวแก่เทวดาที่ต้นไทร ใกล้ประตูบ้านว่า
"
สาธุ
ทวยเทพทั้งหลาย หากข้าพเจ้าไปค้าขายได้กำไร
กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ข้าพเจ้าจักทำการฆ่าสัตว์ทำพลีกรรมบูชา
"
หลายวันต่อมาเมื่อเขากลับมาถึงบ้านโดยไม่มีอันตรายแล้ว
จึงได้ทำการฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมาก เพื่อทำพลีกรรมเปลื้องคำอ้อนวอนนั้น
รุกขเทวดาที่ต้นไทรนั้น
จึงกล่าวคาถาว่า
"
ถ้าท่านปรารถนาจะเปลื้องตนให้พ้น ท่านละโลกนี้ไปแล้วก็จะพ้นได้
ก็ท่านเปลื้องตนอยู่อย่างนี้ กลับจะติดหนักเข้า
เพราะนักปราชญ์หาได้เปลื้องตน
ด้วยอาการอย่างนี้ไม่ การเปลื้องตนอย่างนี้
เป็นเครื่องติดของคนพาล "
|