ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์
ทรงปรารภพระเทวทัตผู้ตะเกียกตะกายเพื่อจะปลงพระชนม์ของพระองค์
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีกวางตัวหนึ่ง หากินผลมะรื่นในป่าแห่งหนึ่ง
มีพรานชาวบ้านคนหนึ่ง มีอาชีพล่าเนื้อขาย
ด้วยการผูกห้างบนต้นไม้มะรื่น ซัดหอกฆ่ากวางที่มากินผลมะรื่นนั้นเป็นประจำทุกวัน
ในวันหนึ่ง
กวางเจ้าปัญญานั้น มากินผลมะรื่นตั้งแต่เช้าตรู่
แต่ไม่ได้ผลุนผลันเข้าไปที่โคนต้นมะรื่นนั้นเลยทีเดียว
ด้วยคิดว่าอาจจะมีพรานนั่งห้างอยู่บนต้นไม้นั้นก็ได้
จึงได้ยืนพิจารณาอยู่ภายนอก
ฝ่ายนายพรานเมื่อเห็นกวางไม่เข้ามา
จึงโยนผลมะรื่นให้ตกลงข้างหน้ากวางนั้น หวังล่อให้กวางเข้าไป
ฝ่ายกวางเห็นเช่นนั้นจึงคิดว่า "
ข้างบนต้นไม้ต้องมีนายพรานอยู่อย่างแน่นอน
เพราะลมไม่มี แล้วทำไมผลมะรื่นจึงมาตกที่หน้าของเราได้
"
จึงแหงนไปดูบนต้นไม้
เหลือบไปเห็นนายพรานบนต้นไม้ แกล้งทำเป็นไม่เห็นแล้วจึงพูดขึ้นว่า
" ต้นมะรื่นเอ๋ย
เมื่อก่อนท่านให้ผลตกลงตรงๆ แต่บัดนี้ ท่านละทิ้งรุกขธรรมเสียแล้ว
เราจะไปยังต้นไม้อื่นแสวงหาอาหารของเรา "
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
" แน่ะไม้มะรื่น
การที่ท่านปล่อยผลมะรื่นให้หล่นกลิ้งมานั้น
เราผู้เป็นกวางรู้แล้ว
เราจะไปสู่ต้นมะรื่นต้นอื่น
เพราะเราไม่ชอบใจผลของท่าน "
ฝ่ายนายพรานที่นั่งอยู่บนห้างนั้น
ได้พุ่งหอกไปยังกวางนั้นอย่างสุดแรง หวังฆ่ากวางนั้นให้ตาย
แต่หอกนั้นพลาดเป้าเพราะอยู่ไกลเกินไป กวางได้วิ่งหนีเข้าชายป่าไปด้วยความปลอดภัย
|