ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์
ทรงปรารภพระเทวทัตผู้ทุศีล ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก
ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นอำมาตย์ของพระเจ้าพรหมทัต
ในเมืองพาราณสี มีช้างมงคลตัวหนึ่งนามว่า
มหิลามุข เป็นช้างมีศีล มีอาจาระมารยาทงาม
ไม่เบียดเบียนใครๆ ต่อมาในคืนหนึ่ง พวกโจรได้ไปปรึกษาวางแผนการปล้นที่ใกล้โรงช้างนั้น
คุยกันว่าจะทำลายอุโมงค์อย่างไร จะลักสิ่งของอย่างไร
ฆ่าเจ้าของแล้วจึงลักขโมย โจรต้องเป็นคนกักขฬะ
หยาบช้า ป่าเถื่อน เป็นต้น
พวกโจรได้ปรึกษากันเช่นนี้หลายคืน
ช้างได้ฟังทุกคืน เข้าใจว่า " พวกโจรสอนให้ตนเป็นผู้กักขฬะ
หยาบช้า ป่าเถื่อน " เช้าตรู่วันหนึ่ง
จึงเอางวงจับคนเลี้ยงช้างฟาดพื้นดินให้ตายไปหลายคน
พวกทหารได้กราบทูลเหตุนั้นแด่พระราชา พระองค์ทรงรับสั่งให้อำมาตย์เข้าเฝ้า
และให้ไปตรวจดูช้างว่า เป็นเพราะเหตุไร อำมาตย์ไปตรวจดูแล้วพบว่าช้างปกติดี
ไม่เป็นโรคอะไร จึงคิดว่าเหตุที่ช้างดุร้าย
อาจได้รับฟังคำของใครๆในที่ไม่ไกล จึงถามคนเลี้ยงช้างว่า
"
พวกท่านพบเห็นอะไรผิดสังเกตหรือไม่ "
พวกคนเลี้ยงช้างแจ้งให้ทราบว่า
"
เห็นพวกโจรมาปรึกษากันใกล้โรงช้างหลายคืนแล้วละครับท่าน
"
อำมาตย์จึงไปกราบทูลพระราชาว่า
" ช้างมหิลามุขเป็นปกติดี
เหตุที่ช้างดุร้ายเป็นเพราะได้รับฟังคำของพวกโจร
พ่ะย่ะค่ะ ต่อแต่นี้ให้นิมนต์พระผู้มีศีลมากล่าวถึงศีลและอาจาระมารยาทอันงามในที่ใกล้โรงช้างนั้น
ช้างก็จะเลิกดุร้าย พะย่ะค่ะ "
พระราชารับสั่งให้กระทำเช่นนั้น
ผ่านไปสองสามวันเท่านั้น ช้างมหิลามุขก็กลับมาเป็นช้างที่มีศีลธรรมปกติเหมือนเดิม
พระราชาทราบความนี้แล้วจึงตรัสเป็นคาถาว่า
"
พญาช้างชื่อมหิลามุข ได้เที่ยวทำร้ายคน เพราะได้ฟังคำของพวกโจรมาก่อน
พญามงคลหัตถี
ได้ตั้งอยู่ในคุณธรรมทั้งปวง ก็เพราะได้ฟังคำของนักบวชผู้สำรวมดีแล้ว
"
|