ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้า เมื่อคราวเสด็จเที่ยวจาริกไปในมคธชนบททั้งหลาย
ทรงปรารภการดับไฟป่า
เรื่องมีอยู่ว่า
วันหนึ่ง พระพุทธองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ได้ไปบิณฑบาตในหมู่บ้านชาวมคธแห่งหนึ่ง
ฉันเสร็จแล้วเสด็จไปตามทาง วันนั้น เกิดไฟป่ารอบด้าน
พวกภิกษุปุถุชนต่างกลัวตายจึงพากันจะดับไฟ
ถูกพวกภิกษุห้ามไว้และให้อยู่ในอาการที่สงบ
ไฟป่าไหม้มารอบด้าน พอใกล้เข้ามาหาพื้นที่พระพุทธองค์และหมู่สงฆ์อยู่ก็ดับไปเอง
สร้างความแปลกประหลาดใจแก่ภิกษุทั้งหลาย เพื่อคลายความสงสัยของพวกภิกษุ
พระพุทธองค์จึงได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีนกคุ่มผัวเมียคู่หนึ่งกำลังมีลูกน้อยตัวหนึ่ง
ทุกวันนกคุ่มผัวเมียจะออกจากรังไปหาอาหารมาป้อนลูกนกอยู่เป็นประจำ
วันหนึ่ง เกิดไฟไหม้ป่ารอบข้าง
นกต่างๆ รวมทั้งนกคุ่มสองผัวเมีย ได้บินออกจากรังไป
เพราะกลัวตาย ปล่อยให้นกคุ่มลูกน้อยนอนผจญภัยอยู่ตามลำพัง
นกคุ่มน้อยเมื่อเห็นไฟไหม้ใกล้เข้ามา จึงรำลึกถึงคุณแห่งศีลว่า
"
คุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก ความสัจ ความสะอาด
และความเอ็นดู มีอยู่ในโลก
ด้วยความสัจนั้น
ข้าพเจ้าจักทำสัจกิริยาอันยอดเยี่ยม ข้าพเจ้าพิจารณากำลังแห่งธรรม
ระลึกถึงพระชินเจ้าทั้งหลายในปางก่อน
อาศัยกำลังสัจจะ ขอทำสัจจกิริยา "
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"
ปีกของเรา มีอยู่ แต่ก็บินไม่ได้ เท้าทั้งสองของเรา
มีอยู่แต่ก็เดินไม่ได้
มารดาและบิดาของเรา
ออกไปหาอาหาร นี่ไฟป่า ท่านจงถอยกลับไปเสีย
"
ด้วยอำนาจแห่งการทำสัจกิริยาของลูกนกคุ่มไฟป่าได้ดับลงไปหมดสิ้น
|