ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน ทรงปรารภภิกษุผู้ล่อลวงถือเอาผ้าจีวรรูปหนึ่ง
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า ...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ที่สระน้ำแห่งหนึ่งซึ่งไม่ใหญ่มากนัก มีปลาอาศัยอยู่มาก
ในฤดูร้อน น้ำในสระจะลดน้อยลงจนเกือบแห้งขอด
ทำให้ปลาอยู่อย่างลำบาก ในที่ไม่ไกลจากสระนี้
มีนกกระยางอยู่ตัวหนึ่ง เห็นปลามีอยู่จำนวนมาก
จึงคิดหาอุบายลวงกินปลาขึ้นมาได้อย่างหนึ่งแล้วไปยืนอยู่ที่ริมสระน้ำนั้น
ทำทีเป็นเศร้าสร้อยหงอยเหงา ยืนเซื่องซึมอยู่
ปลาเห็นนกกระยางเป็นเช่นนั้นจึงถามว่า
"
ท่านเป็นอะไร ถึงดูซึมเศร้าไป "
นกกระยางจึงบอกว่า
"
เรากำลังสลดใจ สงสารพวกท่าน ที่น้ำในสระนี้มีน้อย
มีที่เที่ยวน้อยและความร้อนมีมาก ในที่ไม่ไกลจากนี้
มีสระใหญ่อยู่สระหนึ่งทั้งลึก มีน้ำมากและมีดอกบัวเต็มสระ
ถ้าพวกท่านไว้ใจเราๆ จะอาสาพาพวกท่านไปด้วยจงอยปาก
คาบพวกท่านไปทีละตัว "
ปลากล่าวว่า
"
เจ้านาย ไม่เคยได้ยินว่า นกกระยางคิดดีต่อปลาเลย
ท่านต้องการกินปลาทีละตัวมากกว่า พวกเราไม่เชื่อท่าน
"
นกกระยางกล่าวว่า
"
ถ้าพวกท่านไม่เชื่อเรา พวกเจ้าจงส่งปลาตัวหนึ่งไปดูสระน้ำพร้อมกับเราซิ
"
ปลาจึงคัดเลือกได้ปลาดำใหญ่ตัวหนึ่ง
ที่มีความสามารถทั้งทางน้ำและทางบก เป็นตัวแทนไปดูสระน้ำนั้นกับนกกระยาง
นกกระยางได้นำปลาตัวนั้นไปชมสระน้ำนั้นบินวน
๓ รอบ แล้วนำกลับมาปล่อยยังสระเดิม ปลานั้นได้พรรณนาถึงสระน้ำที่ไปเห็นมาให้ปลาทั้งหลายฟัง
พวกปลาจึงตกลงใจจะไปอยู่ที่สระใหม่ตามคำแนะนำของนกกระยางนั้น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นกกระยางก็คาบปลาทีละตัวไปและกินเสียที่ต้นไม้กุ่มใกล้สระนั้น
จนปลาหมดสระ ในสระนั้นยังมีปูใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง
นกกระยางอยากจะกินปูนั้น จึงไปใช้อุบายนั้นอีก
ส่วนปูฉลาดกลับเสนอว่า เนื่องจากปูตัวใหญ่
เกรงว่านกจะคาบไปไม่ไหว จึงขอใช้ก้ามปูคีบคอนกไปแทนก็แล้วกัน
ด้วยอำนาจแห่งความหิว ทำให้นกกระยางตกลงตามนั้น
พอบินไปถึงต้นกุ่มนกกระยางก็ไปจับที่ต้นไม้นั้นหวังจะกินปู
ปูเห็นก้างปลาที่โคนต้นกุ่มนั้น
กองอยู่อย่างมากมาย ทำให้ทราบความจริง จึงสั่งให้นกกระยางบินกลับไปส่งที่สระตามเดิม
นกกระยางจะไม่ไป ปูจึงหนีบคอนกกระยางให้แน่นขึ้น
พร้อมกับขู่จะหนีบคอนกให้ขาด นกกระยางกลัวตายจึงบินกลับไปที่สระน้ำนั้น
พอบินไปถึงกลางสระน้ำ ปูจึงตัดสินใจหนีบคอนกกระยางขาดตายกลางสระนั่นเอง
รุกขเทวดา
เห็นเหตุการณ์นั้นแล้ว จึงกล่าวเป็นคาถาว่า
"
บุคคล ผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงผู้อื่น จะพบความสุขอยู่ได้ไม่นาน
เพราะผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงคนอื่น ย่อมประสบผลแห่งบาปกรรมที่ตนทำไว้
เหมือนนกกระยางถูกปูหนีบคอตาย ฉะนั้น "
|