ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
ทรงปรารภคนประทุษร้ายอุทยาน ในหมู่บ้านโกศลตำบลหนึ่ง
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ในเมืองพาราณสีมีงานเทศกาลประจำปี ชาวเมืองต่างก็สนุกสนานรื่นเริง
ในพระราชอุทยานมีลิงอาศัยอยู่ฝูงหนึ่ง คนเฝ้าสวนหลวงอยากจะไปเที่ยวงานประจำปีกับเขาด้วย
จึงเข้าไปหาฝูงลิงแล้วพูดกับลิงหัวหน้าฝูงว่า
"
เจ้าลิง สวนหลวงนี้ มีอุปการะคุณแก่พวกเจ้ามาก
พวกเจ้าได้ขบเคี้ยวดอก ผลและใบอ่อนของต้นไม้ในสวนหลวงนี้
บัดนี้ ในเมืองมีงานเทศกาลประจำปี เราอยากจะไปเที่ยวบ้าง
เราอยากจะวานให้พวกเจ้าช่วยรดน้ำต้นไม้ ที่กำลังปลูกใหม่ในสวนนี้
แทนเราจะได้ไหม ? "
ลิงรับว่าได้
คนเฝ้าสวนหลวงก่อนจะเข้าไปเที่ยวในเมือง กำชับว่า
"
พวกท่านอย่าประมาทนะ " แล้วมอบอุปกรณ์ตักน้ำให้แก่พวกลิง
ลิงตัวหัวหน้าฝูง
ได้กล่าวกะพวกลิงผู้ถือเอาอุปกรณ์ตักน้ำเตรียมพร้อมที่จะรดน้ำต้นไม้ว่า
"
ท่านทั้งหลาย ธรรมดาน้ำเป็นของหายาก พวกท่านเมื่อจะรดน้ำต้นไม้
พึงรดตามความต้องการของต้นไม้ ด้วยการถอนต้นไม้ขึ้นมาดู
ต้นไหนรากยาวก็จงรดน้ำให้มากๆ ต้นไหนรากสั้นก็จงรดน้ำให้แต่น้อย
"
พวกลิงรับคำแล้วก็ทำตามนั้น
สร้างความเสียหายแก้ต้นไม้เป็นจำนวนมาก
ในขณะนั้น
ได้มีชายบัณฑิตคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้า
จึงถามความนั้นแก่ฝูงลิง พวกลิงจึงบอกว่าหัวหน้าให้ทำเช่นนั้น
เขาจึงคิดว่า
"
โอ! เจ้าลิงโง่ ช่างไม่ฉลาดเสียเลย คิดจะทำประโยชน์
แต่กลับทำความฉิบหายเสียนี่ "
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"
ผู้ไม่ฉลาดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถึงจะบำเพ็ญประโยชน์
ก็ไม่สามารถ
จะนำความสุขมาได้เลย
คนมีปัญญาทรามทำประโยชน์ให้เสียหาย
เหมือนลิงเฝ้าสวน
"
|