ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์
ทรงปรารภพระเทวทัต ผู้พยายามตะเกียกตะกายเพื่อปลงพระชนม์ของพระองค์
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานามาแล้ว
ในเมืองพาราณสี พระเจ้าพรหมทัต มีพระราชโอรสผู้มีสันดานกักขฬะ
หยาบคายอยู่พระองค์หนึ่งนามว่าทุฏฐกุมาร พระกุมารไม่ได้ทุบตีใครแล้วจะไม่ยอมตรัสกับใคร
จึงไม่เป็นที่ชอบใจทั้งคนภายในและภายนอกพระราชวัง
วันหนึ่ง ท้าวเธอปรารถนาจะเล่นน้ำในแม่น้ำ
จึงไปที่แม่น้ำด้วยขบวนบริวารหมู่ใหญ่ ปรากฏว่า
วันนั้น มีพายุฝนตกอย่างหนัก พวกทาสจึงพากันทิ้งพระองค์ให้ลอยไปตามลำน้ำ
หนีกลับเข้าเมือง กราบทูลพระราชาว่าไม่พบพระกุมาร
พระราชารับสั่งให้ทหารออกติดตามค้นดูให้ทั่วบริเวณก็ไม่พบ
ฝ่ายพระกุมารได้เกาะขอนไม้ลอยไปตามแม่น้ำ
ไม่นานก็มีงู หนูและนกแขกเต้าหนีตายมาอาศัยเกาะขอนไม้นั้นตามลำดับ
สัตว์ทั้ง ๔ ชนิดได้อาศัยขอนไม้ลอยไปตามแม่น้ำนั้น
ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำนั้น มีอาศรมของฤาษีอยู่ตนหนึ่ง
ท่านกำลังเดินจงกรมในเวลาเที่ยงคืน ได้ยินเสียงพระกุมารร้องไห้
จึงไปที่ฝั่งน้ำ พบเห็นสัตว์ทั้ง ๔ ชนิดนั้นจึงได้ช่วยขึ้นฝั่งมา
ก่อไฟให้สัตว์ที่อ่อนแอกว่าผิงไฟก่อน ให้พระกุมารผิงทีหลัง
เมื่อจะให้อาหารก็ให้สัตว์ทั้ง ๓ ชนิดก่อน
ให้พระกุมารทีหลัง
พระกุมารผูกโกรธในฤาษีหาว่าไม่ให้เกียรติตน
พอผ่านไปสองสามวัน น้ำเหือดแห้งแล้ว สัตว์ทั้งสามก็ร่ำลาฤาษี
พร้อมบอกที่อยู่ของตน หากฤาษีเดือดร้อนอะไรจงบอก
ส่วนพระกุมารก็ร่ำลาฤาษีเช่นกัน กลับไปถึงเมืองไม่นานก็ได้ขึ้นครองราชสมบัติ
ฝ่ายฤาษี ต้องการจะทดสอบสัตว์ทั้ง
๔ ชนิด จึงไปที่อยู่ของงู หนูและนกแขกเต้าตามลำดับ
สัตว์เหล่านั้นต่างก็ยินดีให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
แล้วเข้าเมืองพักอยู่ที่สวนหลวง เพื่อทดสอบพระราชา
รุ่งเช้าจึงออกเที่ยวภิกขาจาร
ฝ่ายพระราชา
ในขณะนั้น กำลังประทับบนหลังช้างออกตรวจเมือง
ทอดพระเนตรไปเห็นฤาษีแต่ไกลก็จำได้ รับสั่งให้ทหารจับฤาษีไปเฆี่ยนตีทุก
๔ แยกเมือง แล้วน้ำไปตัดศีรษะเสีย พวกทหารได้ทำเช่นนั้น
ฤาษีไม่สะทกสะท้านอ้อนวอนอะไร เมื่อถูกเฆี่ยนตีทุก
๔ แยกเมือง กลับกล่าวคาถาว่า
"
ได้ยินว่า คนบางพวกในโลกนี้ ได้กล่าวความจริงไว้อย่างนี้ว่า
ไม้ลอยน้ำยังดีกว่า
ส่วนคนบางคนที่ประทุษร้ายมิตรไม่ดีเลย "
พวกราชบัณฑิตได้ฟังคำนั้นทุก
๔ แยก จึงถามเหตุนั้น พอฤาษีเล่าความจริงให้ฟังแล้ว
เกิดความสลด จึงพากันกบฏจับพระราชาสำเร็จโทษเสียบนคอช้างนั้นเอง
ทำการยกฤาษีขึ้นเป็นพระราชาแทน ฤาษีครั้นขึ้นครองราชย์แล้วต้องการทดสอบสัตว์อีก
จึงไปที่อยู่ของงูและหนู สัตว์ทั้งสองได้มอบสมบัติจำนวน
๗๐ โกฏิให้พระราชา ส่วนนกแขกเต้าก็จะนำข้าวสาลีมาให้ในฤดู
พระราชานำสัตว์ทั้งสามเข้าเมืองบำรุงเลี้ยงอย่างดี
ครองราชโดยธรรม ประสบความร่มเย็นเป็นสุขตลอดอายุขัย
|