ในสมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเวฬุวัน
เมืองราชคฤห์ทรงปรารภแม่แพะตัวหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก
ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤๅษีบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าหิมพานต์เป็นเวลานาน
ต่อมาได้สร้างบรรณศาลาที่ซอกเขาแห่งหนึ่งใกล้เมืองราชคฤห์
ทุกวันพวกคนเลี้ยงแพะจะพากันต้อนแพะมาเลี้ยงที่ซอกเขาใกล้ที่อยู่ของพระฤๅษีนั้นเป็นประจำ
เพราะมีภูเขาล้อมรอบเมื่อปล่อยแพะแล้ว พวกเขาก็จะพากันเล่น
ตกเย็นถึงจะไปต้อนแพะกลับบ้านไป
ต่อมาเย็นวันหนึ่ง
เมื่อได้เวลาต้อนแพะกลับบ้าน มีแม่แพะตัวหนึ่งไปหากินไกลฝูง
ไม่ทันเห็นฝูงแพะกลับคอก จึงเดินล้าหลังอยู่ ในขณะนั้นมีเสือเหลืองตัวหนึ่งเห็นแม่แพะนั้นกำลังเดินกลับ
แพะพอเห็นเสือเหลืองยืนดักรออยู่ข้างหน้าก็คิดว่า
"วันนี้ชีวิตเราไม่รอดแน่
นอกจากจะพูดคำอ่อนหวานให้มันใจอ่อนเท่านั้น เราถึงจะรอดไปได้"
เมื่อเดินเข้าไปใกล้เสือเหลือง
จึงพูดขึ้นว่า "คุณลุงคะ สบายดีหรอเปล่า แม่ฉันถามหาลุงอยู่เป็นประจำ
พวกเราคิดถึงคุณลุงอยู่เป็นประจำ พวกเราคิดถึงคุณลุงตลอดเวลาล่ะค่ะ"
เสือเหลืองได้ฟังก็รู้ว่าเป็นกลลวงของแม่แพะจึงตอบไปว่า
"แม่แพะ เจ้าบังอาจมาเหยียบหางเราได้ วันนี้เจ้าคงว่าเจ้าจะพ้นจากความตายไปได้ด้วยการเรียกเราว่าลุงเหรอ"
แม่แพะ
"ท่านนั่งหันหน้ามาทางฉัน ฉันก็อยู่ตรงหน้าของท่าน
ไฉนฉันถึงจะเหยียบหางของท่านที่อยู่ด้านหลังของท่านละ"
เสือเหลือง
"ทวีปทั้ง ๔ มหาสมุทรและภูเขาทั้งหมดเราเอาหางวางไว้หมด
เจ้าจะไม่เหยียบหางของเราได้อย่างไร"
แม่แพะ
"พวกญาติ ๆ ได้บอกเรื่องหาของท่านยาวให้ฉันทราบก่อนแล้ว
ฉันจึงมาทางอากาศ"
เสือเหลือง
"เรารู้ว่าเจ้ามาทางอากาศ ฝูงเนื้อเห็นเจ้าจึงแตกตื่นหนีไป
ทำให้อาหารของเราหนีไปหมด เจ้าจะว่าอย่างไร "กล่าวจบก็ได้ตะครุบแม่แพะฆ่ากินเป็นอาหารในที่สุด
พระพุทธองค์
เมื่อตรัสอดีตนิทานจบได้ตรัสพระคาถาว่า
"ในคนโหดร้ายไม่มีเหตุไม่มีผล
ไม่มีถ้อยคำเป็นสุภาษิตในคนโหดร้าย บุคคลพึงทำการหลบหนีไปให้พ้น
เพราะคำของคนดีมันก็ไม่ชอบ"
|