ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้าประทับอยู่วันเชตวัน เมืองสาวัตถี
ทรงปรารภภิกษุผู้คบพวกผิดรูปหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก
ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นอำมาตย์ผู้สอนธรรมของพระเจ้าสามะ
ในเมืองพาราณสี พระราชามีม้ามงคล อยู่ตัวหนึ่งชื่อปัณฑวะ
มีรูปร่างสวยงามมาก ต่อมาคนเลี้ยงม้าคนเดิมเสียชีวิตลง
จึงรับนายคิริทัตซึ่งเป็นชายขาเป๋เข้ามาเลี้ยงม้าตัวนี้แทน
ฝ่ายม้าปัณฑวะเดินตามหลังนายคิริทัตทุกวันสำคัญว่า
"คนนี้สอนเรา" จึงกลายเป็นม้าขาเป๋ไป
นายคิริทัตได้เข้ากราบทูลเรื่องมาขาเป๋ให้พระราชาทราบ
พระองค์ได้สั่งแพทย์ให้ไปตรวจดูอาการของม้า
แพทย์ตรวจดูแล้วไม่พบโรคอะไรจึงไปกราบทูลให้พระราชาทราบ
พระองค์จึงรับสั่งให้อำมาตย์ไปตรวจดู อำมาตย์โพธิสัตว์ไปตรวจดูก็ทราบว่าม้านี้เดินขาเป๋เพราะเกี่ยวกับคนเลี้ยงม้าขาเป๋
จึงกราบทูลให้ทราบว่าม้านี้เดินขาเป๋เพราะเกี่ยวกับคนเลี้ยงม้าขาเป๋
จึงกราบทูลให้พระราชาทราบว่า "ขอเดชะ
ม้าปัณฑวะของพระองค์เป็นปกติดี ที่เดินเช่นนั้นเป็นเพราะแบบคนเลี้ยงม้า
พระเจ้าข้า"
พระราชาตรัสถามว่า
"แล้วจะให้ทำอย่างไรกับม้านี้ละทีนี้"
อำมาตย์จึงกราบทูลว่า "เพียงได้คนเลี้ยงม้าขาดี
ม้าก็จะเป็นปกติเหมือนเดิม พระเจ้าข้า"
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"ถ้าคนบริบูรณ์ด้วยอาการอันงดงามที่สมควรแก่ม้านั่น
พึงจับมานั่นที่บังเหียนแล้วจูงไปรอบๆ สนามม้าไซร้
ม้าก็จะละอาการเขยกแล้วเลียนแบบคนเลี้ยงม้านั้นโดยพลัน"
พระราชารับสั่งให้เปลี่ยนคนเลี้ยงม้าใหม่
พอเปลี่ยนคนเลี้ยงม้าคนใหม่ ไม่นานม้านั้นก็เดินปกติดีเช่นเดิม
พระราชาจึงได้พระราชทานลาภยศแก่พระโพธิสัตว์เป็นจำนวนมากในฐานะรู้อัธยาศัยของม้านั้น
|
|
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า |
|
|
|
คบคนพาล
พาลพา ไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพา ไปหาผล |
|
|
|