ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
ทรงปรารภพระเจ้าโกศล ผู้เข้าเผ้าด้วยความลำบากใจที่มีอำมาตย์และหญิงเป็นที่รักคบชู้กัน
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นอำมาตย์ทำหน้าที่สอนธรรมแก่พระเจ้าพรหมทัต
ในเมืองพาราณสี ในสมัยนั้น มีอำมาตย์คนหนึ่งแอบเป็นชู้กับหญิงคนรักของพระราชา
พระองค์เองก็ทรงทราบอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจตัดสินพระทัยที่จะทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้
เพราะอำมาตย์เป็นผู้มีอุปการะคุณมาก และหญิงนั้นก็เป็นที่รักยิ่งของพระองค์
วันหนึ่งพระองค์ด้วยความโทรมนัสเป็นอย่างยิ่งจึงรับสั่งให้อำมาตย์โพธิสัตว์มาเข้าเฝ้า
แล้วตรัสถามปัญหาเป็นคาถาว่า
"สระโบกขรณีมีน้ำเย็นใสสะอาด
รสอร่อย เกิดอยู่ที่เชิงเขาหิมพานต์ น่ารื่นรมย์
สุนัขจิ้งจอกรู้อยู่ว่าสระนั้นราชสีห์รักษาอยู่ก็ยังลงไปดื่มกิน"
พระโพธิสัตว์ทราบเรื่องนั้นอยู่แล้ว
จึงกราบทูลเป็นคาถาเช่นกันว่า
"ข้าแต่มหาราช
ถ้าสัตว์มีเท้าทั้งหลายพากันดื่มน้ำในมหานที
แม่น้ำจะไม่ชื่อว่าเป็นแม่น้ำเพราะเหตุนั้นก็หาไม่
หากว่าคน ๒ คนนั้นเป็นที่รักของพระองค์ พระองค์ก็ทรงอภัยโทษเสียเถิด"
พระราชาทรงคลายความโทรมนัสลงไปได้บ้าง
และตั้งอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ จึงเรียกบุคคลทั้งสองเข้าเฝ้าและยกโทษให้แก่คนทั้งสอง
พร้อมตรัสสอนว่า
"นับตั้งแต่นี้ไปเจ้าทั้งสองอย่าได้กระทำกรรมชัวนี้อีก"
คนทั้งสองรับคำและก็เป็นคนดีมีศีลธรรมมาตั้งแต่วันนั้นตราบเท่าชีวิต
|
|
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า |
|
|
|
คนที่ไม่มีความชั่วโดยชาติกำเนิด
ควรได้รับอภัยโทษให้กลับตัวกลับใจ
และอาจทำประโยชน์ให้ได้มากมาย |
|
|
|