ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี
ทรงปรารภพระเทวทัตกับพระโกกาลิกะต่างสรรเสริญกันเอง
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นรุกขเทวดาประจำอยู่ที่ต้นละหุ่ง
ในบริเวณบ้านหลังหนึ่ง วันหนึ่งมีโคแก่ตัวหนึ่งในบ้านนั้นได้ตายลง
เจ้าของบ้านได้ลากซากศพมันไปทิ้งเป็นอาหารสัตว์ไว้ที่ข้างต้นละหุ่งนั้น
ต่อมาไม่นานมีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งมาแทะกินเนื้อโคนั้นอยู่
และมีกาตัวหนึ่งบินมาจับที่ต้นละหุ่งนั้น
ด้วยหวังจะกินเนื้อโคนั้นเช่นกัน จึงพูดยกย่องสุนัขจิ้งจอกขึ้นว่า
" ท่านพญาเนื้อ
ผู้มีร่างกายเหมือนโคถึก มีความองอาจดังราชสีห์
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแก่ท่าน ทำอย่างไร ข้าพเจ้าจักได้อาหารสักหน่อยหนึ่ง
"
สุนัขจิ้งจอกได้ฟังคำยกย่องนั้นแล้วชื่นใจพูดตอบว่า
" กุลบุตรย่อมสรรเสริญกุลบุตรด้วยกัน
ท่านกาผู้มีสร้อยคองามเด่นเช่นนกยูง เชิญท่านลงมาจากต้นละหุ่ง
มากินเนื้อให้สบายใจเถิด"
รุกขเทวดาเห็นกากับสุนัขจิ้งจอกกล่าวยกย่องกันตามที่ไม่เป็นจริง
จึงกล่าวคาถาว่า
"
บรรดามฤคชาติทั้งหลาย สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์เลวที่สุด
บรรดาปักษีทั้งหลาย
กาเป็นสัตว์ที่เลวที่สุด
และบรรดารุกขชาติทั้งหลาย
ต้นละหุ่งเป็นต้นไม้ที่เลวที่สุด
ที่สุด
๓ อย่าง มาประจวบกันเข้าแล้ว "
|