ใครก็ได้ช่วยชี้ทางสว่างแก่เราหน่อย

 kornkoyya    

ไม่รู้ทำไมชีวิตเราเกิดมาภัพเรื่องความรัก รักใคร ใครคนนั้นก็มีแฟนแล้ว ทั่งทุ่มเทความรัก คอยทำความดีให้ แต่สิ่งสุดท้ายที่ได้กลับมาก็คือความเสียใจ ทำไม ตอนนี้นี้ ชีวิตขาดกำลังใจ ขาดหนทาง เหมือนชีวิตเราไม่มีค่า เข้าใจดี ว่าเราหน้าตาไม่ดี เป็นคนที่ไม่มีค่า ไม่เคยเลยที่เธอจะนึกถึงเรา อกหักมาแล้วตั้งหลายครั้ง ไม่มีใครเลยที่จะมองเรา เล่าแล้วซึ้ง อยากจะร้องไห้ให้เหมือนผู้หญิงแต่เราเป็นผู้ชาย ที่อ่อนไหวง่าย กับความรู้สึกก็แค่นั้นเอง    




พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย-ขุททกปาทะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

๘. วิสาขาสูตร

[๑๗๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ บุพพารามปราสาท
ของนางวิสาขามิคารมารดา ใกล้พระนครสาวัตถี
ก็สมัยนั้นแล หลานของนางวิสาขามิคารมารดาเป็นที่รักที่พอใจ ทำกาละลง
(ทำกาละลงหมายถึงตายลงนะคับ)

ครั้งนั้น นางวิสาขามิคารมารดามีผ้าเปียก ผมเปียก
(มีผ้าเปียก ผมเปียก คือ ร่ำไห้จนน้ำตาเปียกปอนไปหมด)
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับในเวลาเที่ยง
ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะนางวิสาขามิคารมารดาว่า
เชิญเถิดนางวิสาขา ท่านมาแต่ไหนหนอ
มีผ้าเปียก มีผมเปียก เข้ามา ณ ที่นี้ในเวลาเที่ยง

นางวิสาขากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
หลานของหม่อมฉัน เป็นที่รักที่พอใจ ทำกาละเสียแล้ว
เพราะฉะนั้น หม่อมฉันจึงมีผ้าเปียกมีผมเปียก เข้ามา ณ ที่นี้ในเวลาเที่ยง เจ้าค่ะ ฯ

พ. ดูกรนางวิสาขา ท่านพึงปรารถนาบุตรและหลานเท่ามนุษย์ในพระนครสาวัตถีหรือ ฯ

วิ. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้เจริญ หม่อมฉันพึงปรารถนาบุตรและหลานเท่ามนุษย์ในพระนครสาวัตถี เจ้าค่ะ ฯ

พ. ดูกรนางวิสาขา มนุษย์ในพระนครสาวัตถีมากเพียงไร ทำกาละอยู่ทุกวันๆ ฯ

วิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มนุษย์ในพระนครสาวัตถี ๑๐ คนบ้าง ๙ คนบ้าง ๘ คนบ้าง
๗ คนบ้าง ๖ คนบ้าง ๕ คนบ้าง ๔ คนบ้าง ๓ คนบ้าง ๒ คนบ้าง ๑ คนบ้าง ทำกาละอยู่ทุกวันๆ ฯ

พ. ดูกรนางวิสาขา ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
ท่านพึงเป็นผู้มีผ้าเปียกหรือมีผมเปียกเป็นบางครั้งบางคราวหรือหนอ ฯ

วิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าค่ะ
พอเพียงแล้วด้วยบุตรและหลานมากเพียงนั้นแก่หม่อมฉัน ฯ

พ. ดูกรนางวิสาขา
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑

ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รัก ผู้นั้นก็ไม่มีทุกข์
เรากล่าวว่าผู้นั้นไม่มีความโศก ปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่มีอุปายาส ฯ

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว
ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดี
มากมายหลายอย่างนี้มีอยู่ในโลก
เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก
เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก
ความโศก ความร่ำไร และความทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี

เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหนๆ
ผู้นั้นเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความโศก
เพราะเหตุนั้น ผู้ปรารถนาความไม่โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี
ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รักในโลกไหนๆ ฯ

จบสูตรที่ ๘


• เผชิญความตายด้วยใจสงบ

• บทสวดมนต์ทำวัตรเย็น หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี

• 155(28/06/64) เวลา 18.00 น. บรรยายธรรม โดย อ.ธรรมธีระ ธรรมมะพิสุทธิ์

• วัดวังผาแดง ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

• เผชิญความตายด้วยใจสงบ

• ๑๕.ปางถวายเนตร

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย