บำเพ็ญสาราณียธรรม...

 นัน555    

เรื่องพระติสสเถระ
เล่ากันมาว่า พระติสสเถระ ชาวเลณคิรีวิหาร อยู่อาศัยบ้านชื่อว่ามหาขีระ. พระมหาเถระ ๕๐ รูปเดินทางไปไหว้นาคทีปเจดีย์ เที่ยวบิณฑบาตในขีรคาม ไม่ได้อะไรเลย จึงพากันออกไป. พระติสสเถระเข้าไปเห็นพระเถระเหล่านั้น จึงถามว่า ท่านขอรับ ท่านได้ (อาหาร) แล้วหรือ? พระเถระเหล่านั้นตอบว่า คุณ พวกเราไปมาแล้ว. ท่านรู้ว่า พระเถระเหล่านั้นไม่ได้อาหาร จึงกล่าวว่า ท่านขอรับ ขอพวกท่านจงรออยู่ในที่นี้แหละจนกว่าผมจะกลับมา. พระเถระเหล่านั้นกล่าวว่า คุณ! พวกเรามีถึง ๕๐ รูปยังไม่ได้แม้แต่เพียงน้ำล้างบาตร. ท่านพระติสสเถระกล่าวว่า ท่านขอรับ ขึ้นชื่อว่าภิกษุผู้เป็นเจ้าของถิ่น ย่อมเป็นผู้สามารถ ถึงแม้จะไม่ได้ภิกษา ก็ย่อมรู้ช่องทางภิกษาจาร. พระเถระทั้งหลายคอยอยู่แล้ว พระติสสเถระเข้าไปสู่บ้านแล้ว มหาอุบาสิกาจัดขีรภัตร (ไว้คอยท่า) ในหมู่บ้านใกล้ๆ นั่นเอง ยืนมองดูพระเถระอยู่แล้ว พอพระเถระมาถึงประตูเท่านั้น ก็ถวายอาหารจนเต็มบาตร ท่านถือเอาบาตรนั้น ตรงไปยังสำนักของพระเถระทั้งหลาย แล้วกล่าวกับพระสังฆเถระว่า นิมนต์รับเถิดขอรับ.
พระเถระคิดว่า พวกเราจำนวนเท่านี้ยังไม่ได้อะไรเลย ภิกษุรูปนี้ถือเอาบาตรไป กลับมาเร็วแท้ นี้อะไรกันหนอ ดังนี้แล้ว มองหน้าพระเถระที่เหลือทั้งหลาย.
พระติสสเถระรู้โดยอาการที่มองหน้านั่นแหละ กล่าวว่า ท่านขอรับ บิณฑบาต ผมได้มาโดยชอบธรรม ขอท่านทั้งหลายอย่ารังเกียจเลย นิมนต์รับเถิด แล้วถวายบิณฑบาตแก่พระเถระทุกรูป พอแก่ความต้องการ ส่วนตนเองก็ฉันจนอิ่ม.
ครั้นในเวลาเสร็จภัตกิจ พระเถระทั้งหลายถามท่านว่า คุณ! คุณบรรลุโลกุตรธรรมเมื่อไร? ท่านตอบว่า ท่านขอรับ ผมยังไม่มีโลกุตรธรรม. พระเถระทั้งหลายถามว่า อาวุโส คุณได้ฌานหรือ? ท่านตอบว่า ท่านขอรับ ถึงฌานผมก็ยังไม่ได้. พระเถระทั้งหลายถามว่า หรือคุณมีปาฏิหาริย์?
ท่านตอบว่า ผมบำเพ็ญสาราณียธรรมขอรับ ตั้งแต่เวลาที่ผมบำเพ็ญสาราณียธรรมบริบูรณ์แล้ว แม้หากจะมีภิกษุตั้ง ๑๐๐,๐๐๐ รูป อาหารที่อยู่ในบาตรก็ไม่หมดสิ้น. พระเถระเหล่านั้น กล่าวว่า สาธุ สาธุ ท่านสัตบุรุษ ข้อนี้สมควรแก่ท่านแล้ว ดังนี้.
เท่าที่เล่ามานี้เป็นตัวอย่างในข้อว่า อาหารที่อยู่ในบาตรไม่หมดสิ้นไปก่อน.
ก็พระติสสเถระองค์เดียวกันนี้แหละไปสู่ที่ถวายทาน เพื่อมหาบูชาในเจติยบรรพต ชื่อว่าคิริกัณฑะ แล้วถามว่า ในการให้ทานนี้มีอะไรเป็นของประเสริฐที่สุด. คนทั้งหลายตอบว่า มีผ้าสาฎก ๒ ผืนขอรับ. พระเถระกล่าวว่า ผ้าสาฎกคู่นี้จักถึงแก่เรา. อำมาตย์ได้ยินคำนั้นแล้วไปกราบทูลพระราชาว่าภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งกล่าวอย่างนี้.
พระราชาตรัสว่า ภิกษุหนุ่มมีความคิดอย่างนี้ (แต่) ผ้าสาฎกเนื้อละเอียดเหมาะแก่พระมหาเถระทั้งหลาย แล้วทรงวางคู่ผ้าสาฎกด้วยทรงดำริว่า เราจักถวายแก่พระมหาเถระทั้งหลาย. เมื่อท้าวเธอถวาย (ผ้า) ในภิกษุสงฆ์ผู้ยืนอยู่ตามลำดับ ผ้าสาฎกที่วางไว้บนก็ไม่ติดพระหัตถ์ ผ้าผืนอื่นกลับติดพระหัตถ์ แต่ในเวลาถวายแก่ภิกษุหนุ่ม ผ้าสาฎกทั้งสองผืนนั้น กลับติดพระหัตถ์ ท้าวเธอทรงวางไว้บนมือของภิกษุหนุ่มแล้ว ทรงมองดูหน้าอำมาตย์ นิมนต์ให้ภิกษุหนุ่มนั่ง ถวายทาน ทรงละภิกษุสงฆ์แล้ว ประทับในสำนักของภิกษุหนุ่ม ตรัสว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พระคุณท่านบรรลุธรรมนี้ เมื่อไร? เธอไม่ทูลคุณธรรมที่ไม่มีอยู่โดยอ้อมค้อม แต่กลับทูลว่า ขอถวายพระพร มหาบพิตร โลกุตรธรรมของอาตมภาพไม่มี.
พระราชาตรัสถามว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เมื่อก่อนพระคุณเจ้าก็ได้พูดไว้แล้วมิใช่หรือ?
ภิกษุหนุ่มตอบว่า ขอถวายพระพร มหาบพิตร ถูกแล้ว อาตมภาพบำเพ็ญสาราณียธรรม เริ่มแต่เวลาที่อาตมภาพบำเพ็ญสาราณียธรรมบริบูรณ์แล้ว ในที่ที่เขาแจกสิ่งของ (ทุกแห่ง) ของมีค่ามากจะตก (แก่อาตมภาพ). พระราชาตรัสว่า สาธุ สาธุ พระคุณเจ้า ผ้าสาฎกคู่นี้สมควรแก่พระคุณเจ้าแล้ว เสด็จหลีกไป.
เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นตัวอย่างในข้อว่า ในที่ที่เขาแจกของกัน ของมีค่าจะตก (แก่ผู้บำเพ็ญสาราณียธรรม).
   





http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=282


• น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรพรีเมี่ยม

• เผชิญความตายด้วยใจสงบ

• พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข) วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท (2390 - 2466)

• บทสวดมหาเมตตาใหญ่ เสียงหลวงพ่อจรัญฯ สวดทุกวันอย่างน้อยวันละ 3 รอบ แก้กรรม

• การปฏิบัติเอาอย่างแม่โคเลี้ยงลูกน้อย - หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย

• ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริงในโลกที่เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยนี้ ทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจังและจะดับสลายไ

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย