การเข้านิพพานของมนุษย์ต่างจากสุทธาวาสพรหมอย่างไร?

 godama     

 การเข้านิพพานของมนุษย์ต่างจากสุทธาวาสพรหมอย่างไร? 

ดังได้กล่าวมาแล้วว่า ในปฏิจจสมุปบาท วิญญาณธาตุ เป็นเหตุให้เกิดนามรูป หรือขันธ์ 5(ซึ่งมีรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์) ด้วยเหตุนี้ วิญญาณธาตุจึงเป็นคนละตัวกับวิญญาณขันธ์

อย่างไรก็ตาม ในภาวะมนุษย์ ทั้งวิญญาณธาตุและวิญญาณขันธ์มันอยู่สนิทกันมาก จนคนธรรมดาแม้แต่คนทำสมาธิได้ฌานไม่สูงนัก หรือแม้แต่พระอรห้นต์สุขะวิปัสสโก ก็อาจจะเข้าใจผิดว่า วิญญาณธาตุและวิญญาณขันธ์ มันเป็นตัวเดียวกัน เพราะพระอรห้นต์สุขะวิปัสสโก ท่านได้เพียงอาสวักขยญาณ ขัดเกลาให้กิเลสหมดสิ้นไปเท่านั้น ท่านไม่ได้อภิญญา 5 ซึ่งเป็น โลกียอภิญญา ท่านจึงถอดกายทิพย์จากกายเนื้อ ไปพิสูจน์ความจริงไม่ได้ ทำให้ท่านหลงตีความผิดๆตามคณะสงฆ์ฝ่ายปริยัติ

แต่อันนี้ไม่เป็นไร เนื่องจาก วิญญาณธาตุและวิญญาณขันธ์มันอยู่สนิทกันมากนั่นเอง เมื่อดับวิญญาณขันธ์ในนาม-รูปได้ ก็เท่ากับดับวิญญาณธาตุไปด้วยนั่นเอง

ก่อนจะเข้าเรื่องในหัวข้อ ผมขอกล่าวซ้ำอีกครั้งว่า จิต(สังขาร)ของเรา แม้ว่าจะเป็นนามก็ตาม แต่จิตที่เป็นนามนั้นมีกายซ่อนอยู่ เป็นนามกาย เรียกว่า "อทิสสมานกาย หรือ กายทิพย์" อทิสสมานกายตัวนี้ เป็นกายที่มองไม่เห็นด้วยตา และเป็นกายในฝันของเรา ซึ่งความฝันของเรามีทั้งฝันลมๆแล้งๆ และฝันที่มาจากกายทิพย์

ตามปกติของมนุษย์ กายทิพย์หรือวิญญาณธาตุ หรือปฏิสนธิวิญญาณ จะออกจากกายเนื้อที่เป็นกายจอมปลอมของมัน เมื่อเราตายเท่านั้น

กายของเปรต เทวดา พรหม สัตว์นรก แม้แต่กายของพระอนาคามีที่เกิดเป็นพรหมชั้นสุทธาวาส ก็ล้วนแล้วแต่เป็นอทิสสมานกาย หรือ กายทิพย์


 ขออธิบายเรื่องกายทิพย์ หรือ นามกาย หรือ อทิสสมานกาย ละเอียดขึ้นอีกนิด 


กายทิพย์ อทิสสมานกาย จัดเป็นกายละเอียดที่ซ้อนอยู่ภายในกายเนื้อของคนและสัตว์ทุกรูปนาม
มีอวัยวะใหญ่น้อยครบถ้วนและมีอินทรีย์ไม่บกพร่อง แต่ไม่อาจแลเห็นด้วยตาได้ ในคัมภีร์พระอภิธรรม จะพบคำว่า นามกาย มากมาย ซึ่งก็คือกายทิพย์ อทิสสมานกาย นี่เอง

นามกาย(วิญญาณธาตุ)ตัวนี้ก็มี เวทนา สัญญา สังขาร เช่นกัน

เนื่องจาก นามกาย หรือ กายทิพย์ มีคุณสมบัติคือ มันเกิดจากจิตเข้าไปพอใจและเข้าไปยึดถือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเนื่องด้วยอารมณ์ไว้ ดังนั้น ถ้าจิต(สังขาร)ยังคงมีความพอใจเข้าไปยึดถืออารมณ์ไว้ตราบใด จิต(สังขาร)ก็จะสร้างกายทิพย์ให้มีอายุยืนยาวได้ตราบนั้น ด้วยเหตุนี้ กายทิพย์จึงมีอายุยืนยาวชั่วกัลปาวสาน แต่ไม่นิรันดร . มันจะเวียนว่ายอยู่ในสังสารจักรนี้เรื่องไปตราบเท่าที่ยังพอใจ และยึดติดในอารมณ์อยู่ ร่างกายของมนุษย์ เทพ พรหม เปรต สัตว์เดรัจฉาน ล้วนเป็นที่พักอยู่ชัวคราวของอทิสสมานกาย หรือนามกาย(วิญญาณธาตุ) หรือ กายทิพย์ เท่านั้น

ในทีฆนิกาย สีลขันธวรรค ๙/๔๖๖/๔๓๑ เกวัฏฏสูตร พระพุทธองค์ตรัสว่า

"......... .........
นามรูป ดับสนิทไม่มีเหลือ
นามรูปดับสนิทในสิ่งนี้ เพราะการดับสนิทของวิญญาณ ดังนี้แล"

เกวัฏฏสูตรหมายความว่า รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์) = นามรูป ดับสนิทไม่มีเหลือ ส่วนวรรคสอง นามรูปดับสนิทในสิ่งนี้ เพราะการดับสนิทของวิญญาณ = ดับสนิทของวิญญาณธาตุ

การที่มนุษย์จะดับนามกาย(วิญญาณธาตุ) หรือดับจิต(สังขาร)ตัวนี้ได้สมบูรณ์ จนสามารถเข้านิพพานได้ถาวร มนุษย์จะต้องดับวิญญาณธาตุไปพร้อมกับดับนามรูป(ซึ่งมีวิญญาณขันธ์อยู่ด้วย) ก่อนตายเท่านั้น หลังจากนั้นนามกาย(กายทิพย์)จะตายสนิทไปด้วยทันที คงเหลือแต่ จิตบริสุทธิ์ ที่เรียกว่า กายธรรม หรือธรรมกาย ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดเดิมของจิตในปฏิจจสมุปบาท กายธรรมนั้นเป็นพุทธภาวะที่สงบ สว่าง สะอาด ร่มเย็นเป็นสุข. เพราะจิตบริสุทธิ์ชั้นพุทโธนี้ จะหลุดพ้นจากการครอบงำของอารมณ์ทั้งหลาย ทำให้จิตบริสุทธิ์ชั้นพุทโธ ไม่ปรุงแต่งให้เกิดจิตไม่บริสุทธิ์ที่มีนามกาย(กายทิพย์)อีกต่อไป ภพชาติใหม่จึงไม่เกิดขึ้นอีก


 สุทธาวาสพรหมเข้านิพพานโดยละทิ้งอทิสสมานกาย  


ผู้ที่บรรลุเป็นพระโสดาบัน จะเกิดอีก 7 ชาติ จึงสามารถเข้านิพพานได้ ซึ่งท่านจะต้องดับทั้งวิญญาณขันธ์ในขันธ์ 5 และดับทั้งตัววิญญาณธาตุด้วย เพราะท่านเป็นมนุษย์ แต่ผู้ที่เป็นสามารถบรรลุธรรมถึงขั้นพระอนาคามี เมื่อละจากโลก อทิสสมานกาย หรือนามกาย(วิญญาณธาตุ)ของท่าน จะไปเกิดในพรหมชั้นสุทธาวาส ซึ่งพรหมชั้นนี้ ไม่ต้องกังวลว่าหมดกำลังบุญจะหล่นตุ๊บมาเกิดอีก ดังนั้น อทิสสมายกายของท่าน จึงสามารถนั่งบำเพ็ญเพียรต่อในชั้นสุทธาวาส หลังจากน้น จึงค่อยดับวิญญาณธาตุ (อทิสสมานกาย) เข้านิพพานต่อไป

 สรุป 

มนุษย์ต้องดับทั้งวิญญาณขันธ์และขันธ์ 5 พร้อมกับวิญญาณธาตุ จึงจะเข้านิพพานได้

สุทธาวาสพรหมดับเฉพาะวิญญาณธาตุ หรืออทิสสมานกายเท่านั้น ก็เข้านิพพานได้แล้ว  สรุป    




การปฏิเสทว่าวิญญาณธาตุ ไม่ใช่กายทิพย์ อทิสสมานกาย เท่ากับปฏิเสทคำสอนทั้งหมดของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะเรื่องไตรภูมิ นรก สวรรค์ พรหมโลก อบายภูมิ เทวดา นางฟ้า ฯลฯ


• ปฏิบัติธรรมวันสงกรานต์ แบบเจโตวิมุติ 12 - 15 เมษายน 2567 ณ ปัณฑิตารมย์สระบุรี

• "พุทโธ ธรรมอยู่ในใจ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

• สังคมมีสุข เมื่อประชาฯ แบ่งปัน

• วัดวชิราลงกรณวราราม วรวิหาร

• 166(11/07/64) เวลา 18.00 น. บรรยายธรรม โดย อ.ธรรมธีระ ธรรมมะพิสุทธิ์

• พลังชีวิตตกเพราะอะไร? | พลังงานบำบัด ตอนที่ 1 | EP.118

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย