ผู้ให้ชีวิต ย่อมได้ชีวิตตอบแทน

 ขอเป็นกำลังใจ    29 เม.ย. 2554

ในสมัยพุทธกาลมีเรื่องเล่า ที่มีผู้เคยได้ยินได้ฟังได้รับรู้มาแล้วเป็นจำนวนมาก เป็นเรื่องกำลังยิ่งใหญ่น่าอัศจรรย์ของศีลข้อที่ ๑ นี้ คือข้อละเว้นไม่ทำลายชีวิตสัตว์การให้ชีวิตสัตว์นี้แหละ

เรื่องก็คือ สามเณรรูปหนึ่งที่อยู่ปฏิบัติธรรมกับครูอาจารย์ มีความประสงค์จะไปเยี่ยมบ้าน ที่อยู่ห่างไกลออกไป ได้ไปกราบลาอาจารย์ท่านผู้เป็นอาจารย์นั้นปฏิบัติธรรมจริงจนได้อำนาจจิตอัศจรรย์ สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดแก่ชีวิตของศิษย์สามเณรได้ เมื่อสามเณรมาขออนุญาต ก็อนุญาตด้วยดี ด้วยความรู้ด้วยว่าสามเณรจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว เพราะหมดอายุแล้ว

แต่วันหนึ่งสามเณรก็กลับมาท่านผู้เป็นอาจารย์แปลกใจที่สิ่งที่รู้เห็นว่าจะจากไปไม่กลับมิได้เป็นความจริง จึงขอให้สามเณรเล่าเรื่องระหว่างการเดินทางกลับบ้านโดยตลอด  สามเณรเล่าถึงเหตุการณ์ตอนหนึ่งว่า ขณะเดินไปนั้นพบปลาตัวหนึ่งเกยแห้งกำลังใกล้ตาย สามเณรได้ซ้อนไปปล่อยในน้ำ  ปลาก็มีกำลัง มีชีวิตรอดอยู่ได้ และสามเณรเองก็พ้นจากความตาย

 การให้ชีวิตจึงมีผลอัศจรรย์ทันที ถ้าเป็นการให้ชีวิต โดยไม่เป็นผู้ทำลายเสียเอง ผลย่อมยิ่งใหญ่กว่า กำลังของศีลย่อมปรากฏให้เห็นเป็นอัศจรรย์ยิ่งกว่าแน่นอน โดยเฉพาะการทำให้ชีวิตตนเองยืนยาวอยู่  

( แสงส่องใจ ๒๕๔๑ สมเด็จพระญารสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก )   




พลังความรักของแม่ ยิ่งใหญ่มหาศาล

ได้ดูเรื่องราวจนจบ ประทับใจ ซึ้งจนน้ำตาไหล

เอามาฝากนะ

รักแม่ให้มั่กมักดูแลท่านให้ดีที่สุด ในยามที่ท่านมีชีวิตอยู่

จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง

ด้วยสองมือแม่ที่สร้างสรรค์

ลูกจึงมีวันอันสดใส

ด้วยความรักการุณย์อบอุ่นใจ

ลูกจึงพร้อมก้าวไปได้งดงาม

....................................

กลอนบทนี่ใครแต่งไม่รู้ ลึกซึ้งมีความหมายชัดเจนแจ่มแจ้ง

ถ้าเจ้าของบทกลอนมาได้อ่านละก้อ ขอบคุณนะขอบคุณจริงๆ

แด่แม่..ด้วยรัก



เมื่อเข้าหน้าแล้ง อากาศร้อน แดดแรง น้ำตามห้วยหนองคลองบึงต่างระเหยหายจนแห้งขอด ดินเริ่มแตกระแหงเพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยง สัตว์บกสัตว์น้ำพากันเดือดร้อน สัตว์ใหญ่เช่นช้าง ต่างพาลูกโขลงออกแสวงหาแหล่งน้ำเพื่อดื่มกินประทังชีวิต ขณะที่แม่กบกระโดดหนี เพื่อจะได้รอดพ้นจากการถูกเท้าช้างเหยียบ ทิ้งลูกอ๊อดฝูงใหญ่ ต่อสู้กับโชคชะตาในบึงน้ำที่เริ่มแห้งขอดลงทุกที.. จนเมื่อปลอดภัย แม่กบก็พบว่า น้ำในบึงถูกแยกเป็นสองส่วน แล้วลูกอ๊อดของเธอกำลังดิ้นรน แสวงหาแหล่งน้ำที่จะได้แหวกว่ายอาศัยมีชีวิตรอดอยู่ต่อไป เธอจึงใช้สมองอันมีอยู่น้อยนิดของเธอ+ความรักอันยิ่งใหญ่มากท้นสุดประมาณของ ความเป็น

­แม่ ใช้สองขาหลังของเธอขูดคุ้ยตะกุยดินด้วยความพากเพียรพยายามอย่างไม่ลดละ ทุก ๆ คนต่างก็เอาใจช่วยเธอ ผลที่สุดความพยายามของเธอก็สำฤทธิ์ผล เมื่อกำแพงดินนั้นทะลายลง สองบึงน้ำก็ไหลบรรจบกัน ลูกอ๊อดของเธอต่างแหวกว่ายพาตัวเองไปสู่บึงน้ำแอ่งใหม่อย่างปลอดภัย ครอบครัวของแม่กบจึงได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งหนึ่ง



ทัศนาได้จากเวปข้างล่าง

http://youtu.be/8QIKFLS2ZOU

www.youtube.com/watch?v=swSL894rbns&feature=related


• "กัลยาณมิตรเกิดฝ่ายเดียวไม่ได้" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)

• อย่างไหนเรียกว่าภิกษุ ?? อย่างไหนน่าสัทธากว่ากัน ??

• ตักบาตรวันฉัตรมงคล (๔ พ.ค. ๒๕๖๗)

• ไปที่ไหนให้มีแต่ธรรม (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

• วัดวังผาแดง ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

• ทำโลโก้ลงบนจานชามเมลามีนราคาพิเศษ

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย