ถ้าเรามกมุ่นในเรื่องกาม เราควรทำอย่างไรครับ
ธรรมชาติของผู้ชาย จำเป็นต้องลั่งอสุจิ การอยู่เป็นคู่สามี ภรรยาก็ตาม
เมื่อถึงอารมณ์นั้น แน่นอนมันเป็นเรื่องที่น่าใคร่สำหรับคนทั่วไป
หากเราต้องการลดในเรื่องความมกมุ่นซึ่งเป็นเรื่องที่ฝืนธรรมชาติ ก็ฝึกจิตพิจารณาว่าร่างกายเป็นของเน่า
ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ในทางทฤษฎีก็ควรทำแบบนี้ แต่ในทางปฏิบัติเป็นเรื่องยากมาก ดังนั้นเราควรทำอย่างไรสำหรับเรา คนทั่วไปที่จะลดกิเลสตรงนี้ลงได้
ถามต่อครับสำหรับสามเณรที่กำลังโตเป็นหนุ่ม ธรรมชาติก็สอนเราให้เราต้องมีเพศสัมพันธ์ หรือเรียกกันทั่วไปว่าฝันเปียก สำหรับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านจะอธิบายเหตุการณ์แบบนี้ให้สามเณรหนุ่มนั้นอย่างไร
ถ้าเรารู้ว่าการหมกมุ่นในเรื่องกามไม่ดี ให้นึกถึงขี้ อย่าไปใกล้มัน เราต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ค่ะ อย่าหลีกหนีปัญหาต่างๆ ให้แก้ไปเรื่อยๆ เพราะทุกคนมีปัญหาตลอด คิดแก้ปัญหาให้ถูกต้อง โดยพิจารณาว่าอันไหนควรทำ อันไหนไม่ควรทำ หรือปรึกษาผู้รู้ เวลาฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้พิจารณาว่าใช่ ไม่ใช่เสมอ ไม่ใช่รับมาใช้โดยไม่ได้ไตร่ตรอง ทางสายกลางทางกามดีสำหรับคนไม่ใช่พระ ครั้งนี้พยายามเลิกไม่ประสบความสำเร็จ ก็ลองใหม่เรื่อยๆ คุณต้องเข้มแข็ง
๑.ดูภาพ อสุภะ พิจารณาบ่อยๆ ๒.เมื่อจิตฟุ้งซ่านให้คิดเรื่องอื่นๆที่เป็นกุศล แล้วลงมือกระทำ เช่น กวาดลานวัด ล้างส้วม ๓.คิดพิจารณาโทษภัยในวัฏฏะคุณของกามมีน้อย โทษของกามมีมาก เครื่องผูกที่ผูกไว้หย่อนๆแต่แก้ได้ยาก ฯลฯ ๔.นึกถึงการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า ๕.กามคุณ มีคุณเพียงเล็กน้อย แต่คุณของพระศาสนานั้นนับประมาณไม่ได้ ๖.พิจารณาว่านี้เป็นการฝึกความอดทน ขันติ ...เป็นต้น ดังนั้นการบวชดำรงอยู่เป็นพระหรือเณร ถ้าตั้งใจปฏิบัติแล้วไม่ใช่ของง่าย แต่หากพิจารณาเห็นทุกข์โทษภัยแล้วก็ตั้งมั่นเจริญในผ้ากาสาวะนี้ได้เช่นกัน ธรรมาวุธ หลักธรรมต่างๆนั้นแหละจะสามารถฟาดฟันกิเลสได้เพียงแต่ว่าผู้นั้นต้องฝึกปรือพิจารณาหลักธรรมบ่อยๆ เล่าเรียนปริยัติ แล้วปฏิบัติ ก็จะอยู่ได้ เข้าหาครูอาจารย์คอยแนะนำ ใกล้ชิดกับกัลยาณมิตรที่คอยแนะนำธรรมได้ดี มีเพื่อนสหธรรมมิกคอยให้กำลังใจกันและกัน ปัญหากระทู้นี้ข้าพเจ้าเข้าใจดี พระสงฆ์องค์เณรไม่ควรอยู่วัดเฉยๆไม่ทำอะไร ควรมีการเรียนการสอนปริยัติ ทำกิจสงฆ์ในวัด และปฏิบัติ เรื่องการบริหารจัดการแบบนี้ก็อยู่ที่แต่ละวัดจะมีกฎระเบียบมากน้อยแค่ไหน เจ้าอาวาสผู้มีความสามารถ และตั้งมั่นในพระวินัยย่อมเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พระลูกวัดและเณรและเด็กวัดด้วย โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต บางวัดไม่ให้มีเลย บางวัดโทรศัพท์มือถือก็ไม่อยากให้ใช้ สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นสัปปายะเหมาะควรแก่การประพฤติพรหมจรรย์ วัดที่มีบริการจัดการแบบนี้ดีๆก็มีอยู่ ดังนั้นการบวชไม่ใช่ของง่าย การดำรงครองเพศนักบวชไม่ใช่ของง่าย การจะบวชที่ใดและควรพักจำพรรษาที่ใดก็ควรพิจารณาด้วย
...........ถ้าตัณหาตัดได้ง่าย ป่านนี้ผู้คนก็บรรลุมากมาย แต่ถึงกระนั้นผู้เห็นภัยในวัฏฏะย่อมฝึกตนอยู่ทุกขณะ ใครจะทำได้มากได้น้อย ก็แล้วแต่การฝึกฝนของแต่ละคนทั้งในอดีตชาติที่เคยทำมาและความเพียรในปัจจุบัน.........สำหรับคฤหัสแม้ว่าทั้งชายและหญิงยังตกเป็นทาสตัณหานี้อยู่ ก็ควรได้มาโดยชอบธรรมไม่ผิดศีล แต่ในขณะเดียวกันก็ค่อยๆละวางลง ถอยลง เพื่อไม่ให้หมกมุ่น ก็เป็นการฝึกตนได้เหมือนกัน เช่น การรักษาศีลอุโบสถ เป็นต้น พยายามเลี่ยงภาพหรือสิ่งใดที่จะทำให้ดำริถึงกามคุณได้
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดีๆครับ จากการวิเคาะห์ความคิดเห็น ผมพอจะเข้าใจแล้วว่า การที่เราจะฝึกมันต้องใช้ความเพียร ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ต้องฝื้นความดิ้นรนของใจ เพราะพฤติกรรมของใจมีความอยากไม่สิ้นสุด หากเราไม่รู้พฤติกรรมของใจ เราก็ไม่รู้ว่าจะดับมันที่ไหน ประมาณนี้รึป่าครับ
ตอนนี้ผมนั่งสมาธิทุกวันได้วันละครึ่งชั่วโมง ผมรู้สึกมีสมาธิอยู่ไม่เกิน 5 นาที ด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก ผมรู้สึกว่าเวลาผมจะทำอะไรมันมีสติควบคุมก่อนทำเสมอ หากเราจะทำไม่ดี มันสามารถยับยั้งได้ทัน ผมว่ามันดีนะ ..... หากผมจะต้องฝื้นความดิ้นรนของใจ ผมจะลองปฏิบัติแบบ กสิณ 10 ดีหรือป่าวครับ
4,458