ปฏิบัติแบบกำหนด ..พอง-ยุบ..ให้เกิดวิปัสสนูปกิเลสได้หรือไม่...ใครมีประสบการณ์บ้างครับ
ใครมีประสบการณ์ในเรื่องนี้บ้างครับ....
วิปัสสนูปกิเลส มี ๑๐ อย่าง คือ แสงสว่าง(โอภาส) ความรู้(ญาณ) ความเอิบอิ่มใจ(ปีติ) ความสงบ(ปัสสัทธิ) ความสุข(สุข) ความน้อมใจเชื่อ(อธิโมกข์) ความเพียร(ปัคคาหะ) การตั้งสติไว้(อุปัฏฐานะ) ความวางเฉย(อุเบกขา) และความใคร่ยินดีในสภาวะ(นิกันติ)
ขอถวายความรู้ที่ยังศึกษาและปฏิบัติไปไม่ถึง แด่สยาดอ(ภัททันตะ วิโรจนะ) พระพรหมโมลี และพระมหาประเสริฐ มนฺตเสวี ดังนี้ครับ
จากที่ท่านกล่าวว่า....ท่านจะได้พบกับสภาวะของวิปัสสนูปกิเลส( ๑๐ ประการ)ในสัมมสนญาณ อย่างน้อย ๓ ประการ ..
การที่ท่านรู้ท่านเข้าใจว่า โอภาส ญาณ ปีติ ปัสสัทธิ สุข อธิโมกข์ ปัคคาหะ อุปัฏฐานะ อุเบกขา นิกันติ ฐานะ 10 ประการนี้ เป็นกิเลส เป็นมิจฉาทิฏฐิของพวกท่านครับ
เป็นความรู้ผิด เป็นความเข้าใจสภาวะธรรมผิดของพวกท่านครับ
สภาวะธรรมในฐานะ 10 ประการเหล่านี้ไม่ใช่กิเลสครับ แต่เป็นสภาวะธรรมที่เป็นกุศล
อันอิงอาศัยเกิดร่วมกันเกิดพร้อมกันในกุศลจิตได้แก่ กามาวจรกุศลจิตที่สัปปยุตด้วยญาณ ( ประกอบด้วยญาณรู้ ) ปฐมฌานจิต ทุติยฌานจิต ตติยฌาน จตุตถฌานจิต
โสดาปัตติมัคคจิต โสดาปัตติผลจิต สกทาคามีมัคคจิต สกทาคามีผลจิต อนาคามีมัคคจิต อนาคามีผลจิต อรหัตตมัคคจิต และอรหัตตผลจิต
โอภาส ญาณ ปีติ ปัสสัทธิ สุข อธิโมกข์ ปัคคาหะ อุปัฏฐานะ อุเบกขา นิกันติ จึงเป็นธรรมที่เป็นกุศลเพราะเกิดร่วมเกิดพร้อมกับกุศลจิต
แต่สิ่งที่เป็นกิเลสแก่ปุถุชนผู้มีจิตเป็นกามาวจรกุศลอันสัปปยุตด้วยญาณ ผู้บรรลุรูปฌาน 4 และพระอริยบุคคลเบื้องต้น 3 ได้แก่พระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี คือ.....
ความกวัดแกว่งหวั่นไหวเพราะ โอภาส ญาณ ปีติ ปัสสัทธิ สุข อธิโมกข์ ปัคคาหะ อุปัฏฐานะ อุเบกขา และนิกันติ .
ความกวัดแกว่งหวั่นไหวของจิตในฐานะ 10 นี้ที่เป็นกิเลสครับ
ส่วน โอภาส ญาณ ปีติ ปัสสัทธิ สุข อธิโมกข์ ปัคคาหะ อุปัฏฐานะ อุเบกขา นิกันติ ฐานะ 10 ประการนี้ เป็นสภาวะธรรมที่เป็นกุศลครับ ดูได้จากมัคคจิตแต่ละดวงครับ
โอภาส .....เจริญแล้วบรรลุจุตูปปาตญาณและรู้แจ้งแทงตลอดในอริยสัจ 4 ได้ครับ
ญาณ .....เจริญแล้วบรรลุปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 อภิญญา 6 และวิชชา 3 ครับ
ปีติ .....เจริญแล้วทำให้กายสงบระงับครับ
เมื่อปราโมทย์แล้วย่อมเกิดปีติ
เมื่อมีปีติในใจ กายย่อมสงบ
เธอมีกายสงบแล้วย่อมได้เสวยสุข
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
เธอสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน...ที่เป็นโลกุตตระในอรหัตตมัคคครับ
ปัสสัทธิ .....เจริญแล้วสงบจากอาสาวกิเลสครับ
สุข .....เจริญแล้วจิตตั้งมี่นครับ
อธิโมกข์ .....เจริญแล้วบรรลุอรหัตตผลครับ
ปัคคาหะ .....เจริญแล้วเกิดสัมมาวายามะในอรหัตตมัคคจิตครับ
อุปัฏฐานะ .....เจริญแล้วเกิดสัมมาสมาธิในอรหัตตมัคคจิตครับ
อุเบกขา .....เจริญแล้วย่อมบรรลุกำลังแห่งอภิญญาในอรหัตตผล บรรลุปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 อภิญญา 6 และวิชชา 3 มาเป็นของแถมครับ
นิกันติ .....เจริญแล้วอิทบาท 4 ในอรหัตตผลจิตบริบูรณ์ ทำให้เป็นดุจยานพาหนะคือบรรลุกำลังแห่งอภิญญาได้ครับ
ค่อย ๆ ศึกษาต่อไปนะครับ ยังมีสิ่งที่พวกท่านยังศึกษาและปฏิบัติไปไม่ถึงอีกมากมายครับ
ด้วยความปราถนาดีจากกัลยาณมิตรนะครับ
เจริญในธรรมครับ
อภิปัญโญ ภิกขุ
Apipanyo DT05479 [15 พ.ค. 2551 13:26 น.] คำตอบที่ 18
นำมาจากที่นี่เจ้าค่ะ.
http://www.dhammathai.org/webboard/dbview.php?No=164