เพื่อนของเพื่อนรายหนึ่ง เป็นผู้ชาย ได้ยุติความสับสนวุ่นวาย ไปอยู่ที่สำนักสันติ อโศก โดยปฏิบัติธรรมถือศีล 8 ที่นั่น เป็นเวลา 10 ปีมาแล้ว ตั้งแต่อายุ 22 ปี แต่ก็ได้ขอเงินทางแม่ ให้โอนเงินมาเดือนละ 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ โดยแม่ยินดีเต็มใจให้ทุกเดือน ... เพื่อนดิฉันมองคนนี้ว่า แบบนี้ จะทำถูกต้องหรือ?

หากการเลือกทางที่สงบ เป็นการบวชเป็นพระ ตั้งแต่อายุ 22 ปี เหมือนกัน โดยไม่ได้ขอเงินโยมแม่ และโยมแม่ก็ยินดีที่ลูกเลือกหนทางสงบแบบนี้ แต่ท่านไม่ได้ดูแล โยมแม่ แบบนี้ เป็นการกระทำอันถูกควรไหมค่ะ

ไม่ได้ดูแลพ่อแม่แต่ยังให้พ่อแม่ดูแลอยู่ด้วยการโอนเงินให้ทุกเดือน ถึงแม้จะถือว่าตัวเอง
ปฏิบัติธรรมถือศีล ๘ ก็ไม่เหมาะเท่าไหร่และที่สำนักนี้กำลังทำอะไรอยู่คนทั่วประเทศรู้ดี


เพื่อนของเพื่อนรายหนึ่ง เป็นผู้ชาย ได้ยุติความสับสนวุ่นวาย ไปอยู่ที่สำนักสันติ อโศก โดยปฏิบัติธรรมถือศีล 8 ที่นั่น เป็นเวลา 10 ปีมาแล้ว ตั้งแต่อายุ 22 ปี แต่ก็ได้ขอเงินทางแม่ ให้โอนเงินมาเดือนละ 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ โดยแม่ยินดีเต็มใจให้ทุกเดือน ... เพื่อนดิฉันมองคนนี้ว่า แบบนี้ จะทำถูกต้องหรือ?
หากการเลือกทางที่สงบ เป็นการบวชเป็นพระ ตั้งแต่อายุ 22 ปี เหมือนกัน โดยไม่ได้ขอเงินโยมแม่ และโยมแม่ก็ยินดีที่ลูกเลือกหนทางสงบแบบนี้ แต่ท่านไม่ได้ดูแล โยมแม่ แบบนี้ เป็นการกระทำอันถูกควรไหมค่ะ
โดย : [DT06388] 23 มิ.ย. 2551 17:08 น.

ทางธรรมนั้นถ้าเรา ทำหรือบวช โดยที่พ่อแม่อนุญาตไม่เป็นไรสบายใจได้ครับ ได้บุญดีซะอีกด้วย ขออนุโมทนาสาธุ เรื่องเงินอย่าเอามาพูดเลยครับ กิเลสทั้งนั้นครับ คิดดีก่อนครับ เพื่อนของเพื่อน จะทำอย่างไรปล่อยเถอะครับ เราอย่าเอามาให้เกิดกิเลสเลย ตัวเราบวชแล้วให้ตั้งใจให้มั่นครับ พ่อแม่ถ้าเค้าอนุญาตแล้ว เค้าคงรู้ครับว่าเค้าอยู่กันได้หรือไม่ได้ ตัวเราอย่าเอามาเป็นห่วงเลย จุดประสงค์เรากำลังจะทำอะไร หาเป้าหมายครับ พระพุทธเจ้า ก็ทรงหนีพระบิดาไปบวชเหมือนกันเพราะจะทรงหาหนทางการพ้นทุข์ ตัวเราจะบวช ก็บอกพ่อแม่ก่อนพ่อ แม่รู้ดีครับว่าจะให้บวชตลอดไปหรือว่ายังไง ท่านจงอย่าห่วงเลย เจริญในธรรม


สงสัยอีกเรื่องค่ะ
ดิฉันเคยไปนั่งสมาธิ แถวกาญจนบุรี ที่นี้ มีแม่ชี และนักปฏิบัติธรรม อยู่ร่วมกับพระ ค่ะ
โดย ตอนเช้า ดิฉันจะต้องตื่น ตี 4 เพื่อสวดมนต์ ถึง 6 โมงเช้า แล้วทางสำนักนี้ ฯ จะมีอาหารเช้าให้คือ น้ำเต้าหู้ , โอวัลติน , น้ำดื่มธัญญาพืชค่ะ โดย ผู้ที่ยกมาคือ พระ และเห็นแม่ชี และนักปฏิบัติธรรม ท่านอื่นๆ กวาดพื้น คือ เดินสวนกันไปกันมา แต่หากมการนอนจะอยู่แยกกันค่ะ เป็นศาลาของหญิงล้วน และส่วนชายจะแยกไปอยู่อีกที่
แล้วจะมาปฏิบัติธรรมรวมกัน

คำถามคือ ... แม่ชี และพระ ทำงานร่วมกันได้ใช่หรือไม่ค่ะ

คราวนี้อีกเรื่องค่ะ ที่ดิฉันเจอ คือตอนที่ดิฉันไปกับเพื่อน ระหว่างนั่งรถไฟไปที่นี้นั้น
ได้เจอคนที่ปฏิบัติธรรมกำลังไปที่นั่นด้วยกันพอดีเลยค่ะ เค้าเป็นหญิงแต่งชุดขาวทั้งชุดค่ะ ตัดผมหน้าม้า .. ก็เลยได้คุยกัน เค้าพาพวกเราปฏิบัติตามเค้า โดยถอดรองเท้าตรงหน้าประตู แล้วกราบ 3 ครั้ง จากนั้น ก็เดินเข้าไปอย่างสุภาพ โดยระหว่างทางนั้น ได้เจอคนปฏิบัติธรรมอีกคน คนที่นำพาเราเดินนั้น เค้าคุยกับคนนี้ อย่างดีใจที่ได้แนะนำเรา
และเหมือนคุยๆ กันว่า เป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ หากได้พาใครมาปฏิบัติธรรม ค่ะ
แล้วเดินไปเจอคนที่ปฏิบัติธรรมท่านอื่นอีก ก็ได้หยุดคุยกันอีก โดยพูดคำเดิม ว่า แนะนำเค้าจะได้ทำถูก เป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ แล้วเค้าก็ยิ้มปลื้มดีใจมากเลยค่ะ

ดิฉันได้ถามเพื่อน คนที่เคยปฏิบัติธรรมที่นี้ มาก่อน เค้าบอกว่า ที่นี้จะนับถือ แม่ (แม่หมายถึงผู้ที่บุกเบิกสถานที่นี้ค่ะ) หลายๆ คน ก็จะเลียนแบบ "แม่" คือ ตัดผมทรงหน้าม้าสั้น กันหลายคนเลยค่ะ และจะมีกุศลยิ่งใหญ่ หากได้พาหรือแนะนำใครมายังที่นี้ด้วย
ก่อนที่กลับบ้าน ทางแดน นี้ได้มีการให้ใบประกาศ หากว่า กลับไปปฏิบัติธรรมถือศีล 8 สำหรับคนทำงาน โดยปฏิบัติเกินประมาณ 13 วัน (จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะว่ากี่วัน) ก็จะให้ใบประกาศนี้ไปค่ะ ดิฉันก็ทำการลงไว้ก่อน หากทำได้ ก็จะได้ใบประกาศ พอกลับมาทำเข้าจริงๆ ก็ทำไม่ได้ ตามกำหนด ดิฉันเลยเลิกไป ไม่นานทางแดนฯ ก็โทรมาค่ะ บอกว่า ให้ทำก่อนเดือนเมษายน เพราะ "แม่" จะเป็นผู้ให้ใบประกาศเอง (ซึ่งทุกคนจะรอคอยวันนี้กันค่ะ ว่าจะได้เจอ แม่ จริงๆ กัน หากได้เจอท่าน จะมีบุญ ประมาณนี้ค่ะ)
ดิฉัน ก็ปฏิเสธไปค่ะ เพราะทำไม่ได้จริงๆ ... ไม่นานก็โทรมาอีก โทรมา 2 - 3 ครั้งไม่แน่ใจค่ะ แล้วก็ไม่ได้โทรมาอีก ดิฉันเล่าเรื่องที่เค้าโทรมาเพื่อให้เราปฏิบัติธรรม ถือศีล 8 ที่ทำงานให้ได้ ให้กับเพื่อนๆ เพื่อนๆ บอกว่า แปลกดี ทำไมต้องลงทุนโทรศัพท์ด้วย...



คำถามคือ ... แม่ชี และพระ ทำงานร่วมกันได้ใช่หรือไม่ค่ะ
jeabsayhi DT06388 [24 มิ.ย. 2551 17:25 น.] คำตอบที่ 3
อย่างนี้ครับ เราคือผู้ทรงศีล ทั้งนั้น ทำวัดร่วมกันได้หมดครับ แต่ต้องเป็นสัดส่วนหน่อยครับ ใจเราก่อนครับ อย่างวิตกมากไปครับ เร่งทำดี รักษาศีลเถอะครับ จิตใจอยู่ที่ พุท โธ ปล่อยวางครับแล้วจะสำเร็จครับ

ดิฉันเล่าเรื่องที่เค้าโทรมาเพื่อให้เราปฏิบัติธรรม ถือศีล 8 ที่ทำงานให้ได้ ให้กับเพื่อนๆ เพื่อนๆ บอกว่า แปลกดี ทำไมต้องลงทุนโทรศัพท์ด้วย...
ผมว่าเค้าอาจจะทำกุศลโดยการตั้งสำนัก และเค้าเป็นเจ้าสำนัก ใครมาปฏิบัติก็เหมือนบอกบุญเป็นธรรมทานครับ แต่ถ้าเราไม่สบายใจก็ไม่ต้องพาใครมาก็ได้ แล้วแต่เราละครับ เราก็ถือศีลร่วมกับเค้าก็ได้บุญเหมือนกันครับ แต่การให้ที่ดีที่สุดคือการให้ทานด้วยธรรมมะครับ อย่างผมเนี่ยทำไมผมไม่รู้จักคุณ ทำไมผมถึงมาเขียนตอบกะทู้คุณใช่ใหมครับ เพราะผมเข้ามา เพื่อให้เป็นธรรมทานครับ ถ้าตอบได้ผมจะตอบให้ครับเพื่อความสบายใจของคุณ และผมก็ไม่มีส่วนอะไรกับเว็บไซด์ด้วย ขอโทษนะครับ ให้เราคิดบวกใว้ครับจะสบายใจมากๆๆ และเราทำบุญเราทำไมยอมเอาเงินของเราละครับ เจริญในธรรมครับ ขอให้คุณบรรลุธรรมครับสาธุ ถ้อยคำอันใดทำให้ไม่สบายใจขอให้อโหสิกรรมให้ผมด้วยเทอญสาธุ


ดีกว่าผมนะคุณ ผมมีครอบครัว ผมไม่อยู่ดูแลแม่ผมหรอกครับ แต่ผมดึงท่านมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานด้วยครับ คุณก็ไปนำท่านมาด้วยซิ


เฮ้อ...คนถือศีลแปดเขาจับตังค์เดือนละ 2 พันเลยหรอเนี่ย....เอาเงินไปเลี้ยงพ่อแม่ดีกว่ามั้ย