สวัสดีครับ รบกวนพี่ๆด้วยครับ มีปัญหาระหว่างการงาน กับ ความรู้สึก ... ^_^"

     

ตัวกระผมเอง ศึกษาธรรมะมาระยะเวลาหนึ่งแล้วครับ
ด้วยการอ่านหนังสือก็ดี บทความก็ดี
บางครั้งก็รู้สึกสับสนกับชีวิตนิดหน่อย ว่าเราควรจะทำอย่างไรต่อไปกันแน่

เท่าที่ผมได้เรียนรู้ หัวใจของพระพุทธศาสนา คือไม่ผูกจิตยึดติดกับสิ่งใด
ดังที่ท่านพุทธทาสฯ ท่านได้กล่าวบ่อยๆว่า "สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ"
ผมก็ได้ปฏิบัติตาม ซึ่งชั่วระยะเวลาหนึ่ง ผมเองก็มีความอิ่มใจกับชีวิตของตนเอง
รู้สึกว่ามีความสุขได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งใด

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมไปสู่นิพพานได้ใช่ไหมครับ?

ถ้าผมมีความพอใจในธรรม และมีความประสงค์ไปนิพพาน ต้องปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน ๔
กระทั่งบรรลุฌาณ อย่างน้อย ต้องเป็น พระโสดาบัน (ใช่ไหมครับ? เท่าที่ผมศึกษามาได้ประมาณนี้)
ซึ่งต้องละทิ้งทางโลกไปเลยทีเดียว

แต่ตัวกระผมยังไม่อยากละทั้งทางโลกครับ
ยังมีการงานที่ต้องทำ ยังต้องการประสบการณ์มากมาย
ตัวกระผมเองมีอาชีพในสายดนตรีด้วยครับ ... เป็นเรื่องปกติทุกวัน ที่จะต้องเจอกับอบายมุข
ซึ่งผมเองได้รักษาศีล ๕ มาตลอด ... ไม่ยุ่งกับอบายมุขทั้งหลายครับ

กระผมได้วางแผนชีวิตไว้แล้วครับว่า
เมื่อถึงเวลาอันสมควร อาจจะอีกไม่กี่ยี่สิบสามสิบปี ผมจะละทิ้งทางโลก และเข้าสู่ธรรมอย่างเดียวครับ
พูดง่ายๆ ก็คือ อยากหลุดพ้นจากวัฏสงสารแล้วนั่นเอง ...

สิ่งที่ผมใคร่อยากจะเรียนถามรุ่นพี่ในบอร์ดธรรมะไทยก็คือ
ใน "ตอนนี้" ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ ...
มีชีวิตประจำวันไปตามปกติ ดำรงอยู่ในธรรม จนกว่าจะถึงวันนั้น ก็เป็นทางที่ผมเลือก
แต่ผมกลัวจะอยู่ไม่ถึงวันนั้นครับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด จะโดนทำร้ายจนเสียชีวิต น้ำท่วมโลก หรืออะไรก็แล้วแต่!
กว่าผมจะได้โคจรมาพบกับพระธรรมอีก อาจจะต้องโคจรไปอีกเป็นกัปป์เป็นกัลป์ก็ได้ ...
รู้สึกเสียดายครับ ถ้าเป็นแบบนั้น อุตส่าห์ได้เกิดมาเป็นสัตว์ประเสริฐผู้ทรงสติแล้วทั้งที ...
รบกวน พี่ๆกัลยาณมิตรช่วยแนะนำด้วยครับ ...

ขออภัยด้วยครับ ถ้ามันเป็นคำถามโหลๆ
อีกอย่าง ผมยังเด็กอยู่เลยครับ .. 18 เอง ^_^"

ขอบคุณมากครับ
อนุโมทนาครับ   






โดย : ฉ่ำใจ [58.9.155.205] 20 ก.ค. 2551 15:32 น.


การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องในศาสนานี้นั้นต้องใช้ปัญญาในการเลือกครับ
สิ่งใดควรกำหนดรู้ให้ท่านเลือกกำหนดรู้
สิ่งใดควรละให้ท่านเลือกละเสีย
สิ่งใดควรทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งให้ท่านเลือกทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งครับ
สิ่งใดควรจะเจริญให้ท่านเลือกเจริญสิ่งนั้นให้บริบูรณ์


สิ่งใดควรกำหนดรู้ให้ท่านกำหนดรู้
กองทุกข์เท่านั้นที่เป็นสิ่งที่ควรกำหนดรู้.

สิ่งใดควรละให้ท่านละเสีย
นิวรณ์ 5 และกิเลสตัณหาเป็นสิ่งที่ควรละ ให้ท่านละเสีย ไม่ใช่ละไปเสียทุกเรื่องนะครับ ท่านยังคงสามารถทำงาน พบปะผู้คนในสังคมได้เป็นปกติครับ ไม่ใช่ละทิ้งทางโลก แต่ให้ละทิ้งเหตุให้เกิดทุกข์ครับ.

สิ่งใดควรทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งให้ท่านทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งครับ
ความดับทุกข์คือดับกิเลสตัณหาและนิวรณ์ 5 เมื่อจะดับๆ ที่ไหนดับอย่างไรเป็นสิ่งที่ควรทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้ง ไม่ใช่ไปรู้ไปเข้าใจเสียทุกเรื่องนะครับ เพราะบางเรื่องรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์แก่การพ้นทุกข์.

สิ่งใดควรจะเจริญให้ท่านเจริญสิ่งนั้นให้บริบูรณ์
มรรคมีองค์ 8 หรือการบำเพ็ญกุศลจิต เช่นให้ทาน รักษาศีล เจริญฌานสมาบัติ หรือเจริญอริยะมัคค ได้แก่โสดาปัตติมัคค สกทาคามีมัคค อนาคามีมัคค และอรหัตตมัคค เป็นสิ่งที่ควรเจริญในปัจจุบันขณะครับ ไม่ใช่ไปเจริญในปัจจุบันขณะเสียทุกเรื่องนะครับ.


ขออนุโมทนาสาธการส่วนกุศลในการใฝ่ธรรมของท่านด้วยนะครับ


เจริญในธรรมครับ

อภิปัญโญ ภิกขุ


• ธัมโอวาท โดย พระครูเกษมธรรมทัต (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี)

• 02 (26/02/2566) โครงการศึกษาพระสุตตันตปิฎก โลกธรรม 8 "ความมีลาภ"

• ✨ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบูรณะห้องผู้มาปฏิบัติธรรม 12 ห้อง ✨

• ๓๗.ปางโปรดพุทธบิดา

• ✨ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบูรณะห้องผู้มาปฏิบัติธรรม 12 ห้อง ✨

• โควิด-19 รอบนี้กระจายอยู่รอบตัว ไม่ใช่แค่ใส่แมสก์ ล้างมือ แต่ควรสร้างเกราะป้องกัน ให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง พร้อมสู้ไวรัส แบคทีเรีย ด้วยพลูพลัส PLU+ คิดค้น พัฒนาและผลิตโดยอังกฤษ ตรางู รูปแบบแคปซูล พกพาสะดวก ทานง่าย ดูดซึมเร็ว เห็นผลจริง

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย