ถามเรื่องความตาย 3 แบบ

     

(1) นาย ก. ป่วยนานเป็นปีสองปีต้องทรมานทั้งญาติและนาย ก. ต้องนอนซมอยู่อย่างนั้นเป็นปีสองปีถึงตาย (2) นาย ข. ไม่ป่วยไม่ไข้ วันนี้ยังพูดเล่นกับลูกๆหลานๆ พอรุ่งเช้าญาติเรียกไปทานข้าวเพราะเห็นว่าสายแล้ว แต่ปรากฎว่านาย ข.ตายเสียแล้ว โดยไม่ป่วยไข้อะไร (3 ) นาย ค. อายุ50กว่าปี ร่างกายแข็งแร็งสมบูรณ์ดี จะมีบ้างที่ป่วยไข้นิดๆหน่อยๆ เช่นเป็นไข้ทายยาก็หาย ป็นหวัด จาม ไอ แต่ช่วงชีวิติที่ผ่านมาไม่เคยเป็นอะไรที่หนักไปกว่าที่พูดและไม่เคยไปนอนโรงพยาบาลเลย ต่อมาจู่ๆนาย ค. ก็ไม่สบายมีอาการปวดท้อง แต่อาการไม่ถึงหนักพูดคุยได้สบาย เดินเหินไปโรงพยาบาลไปได้สบาย อยู่ที่โรงพยาบาล 10กว่าวัน ขณรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็พูดคุยได้ดี เดินได้ปกติไม่มีอาการว่าป่วยหนักอะไร พอ3วันสุดท้ายก่อนที่นาย ค. จะถึงแก่กรรมแกเริ่มมีอาการหนักทันที และก่อนถึงแก่กรรม 1 วันยังพูดคุยกัฐญาติได้ดีอยู่ พอวันสุดท้ายแกก็ถึงแก่กรรม และถึงแก่กรรมอย่างสงบ สงบจริงไดยไม่ดิ้นทุรนทุรายอะไร เหมือนคนม่อยหลับไป

จากตัวอย่างความตายทั้ง 3 แบบที่กล่าวมาแต่ต้นนั้น อยากให้ท่านผู้รู้ได้เมตตาช่วยอธิบายให้ด้วยว่าทำไมจึงตายไม่เหมือนกัน หากเป็นเพราะกรรมของแต่ละคนก็อยากจะให้ได้โปรดอธิบายให้ครบทุกคน ( ทั้ง3 คน) ว่าแต่ละคนมีกรรมอย่างไรมากน้อยเพียงไร    




เรื่องกรรมนี้เป็นเรื่องที่เราไม่อาจรู้ได้ยกเว้นแต่เป็นพระพุทธเ้จ้าหรือผู้ได้อภิญญาระลึกชาติได้ แต่พอจะมีหลักพิจารณาเหตุแห่งการตายดังต่อไปนี้


เหตุแห่งการตาย สาเหตุที่ทำให้ตายมีประเด็นใหญ่ๆ อยู่ ๔ ประการ คือ

๑. ตายเพราะสิ้นอายุ (อายุกขยมรณะ) ในสมัยครั้งพุทธกาล อายุขัยของคนในยุคนั้น คือ ๑๐๐ ปี มาปัจจุบันนี้ล่วงมาได้ ๒๕ ศตวรรษ คือ ๒,๕๐๐ กว่าปี อายุจึงลดลงมาอีก ๒๕ ปี ฉะนั้นอายุขัยของคนปัจจุบันนี้จึงมีแค่ ๗๕ ปี วิธีคำนวณคือนับแต่ปีพุทธปรินิพพานมา ๑๐๐ ปี (๑ ศตวรรษ) ลดไป ๑ ปี เพราะฉะนั้นเมื่อเวลาล่วงไป ๒๕ ศตวรรษ จึงเท่ากับ ๒๕ ปี ใครที่ตายในช่วงอายุ ๗๔ หรือ ๗๕ ปี ถือว่าตายเพราะสิ้นอายุขัย แต่ถ้าใครอยู่เกินไปกว่านั้นจัดว่าเป็นบุญ
๒. ตายเพราะสิ้นกรรม (กัมมักขยมรณะ) ผู้ที่จะไปเกิดในภพภูมิใด จะดีเลวหรือประณีตอย่างไร กรรมที่แต่ละคนสร้างเป็นผู้ลิขิตให้เป็นไปอย่างเช่น การจะมีสิทธิ์มาเกิดเป็นมนุษย์อย่างน้อยต้องเคยมีศีล ๕ หรือกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการมาก่อน และเมื่อเกิดมาเป็นคนแล้วยังแตกต่างกันด้วยรูปร่าง ผิวพรรณ ฐานะ ตระกูล อุปนิสัย อายุสั้นหรืออายุยืนเป็นต้น เพราะสัตว์ทั้งหลายเป็นผู้มีกรรมเป็นของตน จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ใครทำกรรมอันใดไว้ จะดีหรือชั่วก็ตามต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น การที่ตายเมื่อยังไม่ถึงวัยอันควรเป็นเพราะกรรมฝ่ายกุศลที่ส่งให้เขาเกิดมา เป็นคนนั้นหมดไปเหมือนคำพูดที่ว่า สิ้นบุญหรือหมดบุญนั่นแหละ
๓. ตายเพราะสิ้นทั้งอายุและกรรม (อุกบัลขยมรณะ) คนที่มีอายุบางคนร่างกายยังแข็งแรงดีและไม่มีโรคภัยประจำตัว แต่พอถึงคราวตายก็ตายไปเฉยๆ เหมือนว่าหลับแล้วไปเลยไม่ตื่น อย่างนี้ก็เข้าลักษณะนี้ คือหมดทั้งอายุและกรรม
๔. ตายเพราะถูกกรรมตัดรอนหรืออุบัติเหตุ (อุปัจเฉทกกรรมขยมรณะ) ปัจจุบันคนที่ตายเพราะเหตุนี้มีมาก มีทั้งตายเดี่ยวและตายหมู่ อันเนื่องจากอุบัติเหตุต่างๆ รวมทั้งโรคภัยที่รักษาไม่หายด้วยเป็นที่น่าเสียดายว่าเขายังไม่ถึงวัยอันควร ต้องตาย แต่มาตายไปเสียก่อน เกี่ยวกับเรื่องนี้ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงสาเหตุไว้ว่า "บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสตรีก็ตาม เป็นบุรุษก็ตาม เป็นผู้มักทำสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงไป เป็นคนเหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูเหล่าสัตว์มีชีวิต เขาตายไปจะเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น หากตายไปยังไม่เข้าถึงอบาย เกิดมาก็จะเป็นคนมีอายุสั้น คนที่เกิดมามีอายุสั้นเพราะผลแห่งปาณาติบาต"



• ธรรมทาน โดย พุทธทาสภิกขุ

• เพลง ลมหายใจแห่งความสุข (เวอร์ชั่นทำสมาธิ)

• ตนเป็นที่พึ่งของตน - We must rely on ourselves.

• ธรรมสมาทาน ** ข้อยึดถือเป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติ

• เผชิญความตายด้วยใจสงบ

• ยิ่งหมั่นดูแลตาดูแลหูของตน เราก็จะยิ่งรักษาจิตใจได้ง่ายขึ้น

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย