ในสมัยหนึ่ง
พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี
ทรงปรารภอุบาสกผู้มีภรรยาคบชู้ คนหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ในเมืองพาราณสี ที่สำนักเรียนของอาจารย์ทิศาปาโมกข์อยู่แห่งหนึ่ง
มีลูกศิษย์ประมาณ ๕๐๐ คน ลูกศิษย์คนหนึ่งอยู่ต่างเมืองได้ภรรยาชาวเมืองพาราณสี
ภรรยาของเขามีนิสัยชั่วใฝ่ต่ำ ในวันที่ประพฤตินอกใจสามีได้จะสดชื่นร่าเริง
ในวันที่ประพฤติไม่ได้จะดุร้าย หยาบคาย เขาไม่ทราบความประพฤติของนาง
จึงเกิดเอือมระอาขุ่นข้องหมองใจ ไม่ได้ไปบำรุงอาจารย์เป็นเวลาหลายวัน
ครั้นเวลาผ่านไป
๗-๘ วัน เขาจึงได้ไปที่สำนักเรียน เมื่อถูกอาจารย์ถามก็ได้เล่าสาเหตุให้อาจารย์ฟัง
อาจารย์จึงกล่าสอนว่า "
ก็ธรรมดาผู้หญิงที่มีนิสัยชั่วช้า ถ้าวันใดประพฤตินอกใจสามีได้
จะดูสดชื่นแจ่มใสร่าเริง โอนอ่อนผ่อนตามสามี
วันใดประพฤตินอกใจสามีไม่ได้ จะดูกระด้าง
ดุร้าย หยาบคาย ไม่ยอมรับนับว่าเป็นสามี สภาพของหญิงรู้ได้ยาก
นางจะต้องการหรือไม่ก็ตาม พึงตั้งตนเป็นกลางเข้าไว้
" แล้วให้โอวาทว่า
"
อย่ายินดีเลยว่า นางปรารถนาเรา อย่าเสียใจเลยว่า
นางไม่ปรารถนาเรา สภาวะของหญิงรู้ได้ยาก เหมือนรอยของปลาในน้ำ"
อาจารย์ได้สั่งสอนเขาต่อไปอีกว่า
"
ผู้หญิงเป็นของทั่วไปแก่ผู้คน บัณฑิตจะไม่ทำความขุ่นเคืองในหญิงเลย
"
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"
ขึ้นชื่อว่า หญิงทั้งหลายในโลก มีอุปมาเหมือนแม่น้ำ
หนทาง โรงน้ำดื่ม ที่ประชุม
และบ่อน้ำ
บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมไม่ถือโกรธหญิงเหล่านั้น
"
|