เหวลึกของดวงจิต คือ โลภ โกรธ หลง : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
ก็พึงพากันตั้งใจให้ดี สังขารร่างกายนี้ไม่คอยอยู่ท่า ต้องรรีบทำความเพียร เรารู้ไม่ได้ว่าความตายมันจะมาถึงวันไหน เมื่อตายลงไปแล้วก็ไม่ได้ทำความดี ไม่ได้ฝึกตนไปสู่โลกหน้า จะไปเสวยผลบุญผลบาปที่ตนทำในโลกนี้เท่านั้น ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำความเพียรให้เหมือนอย่างที่เราเกิดมาเป็นคนในโลกนี้
เกิดเป็นคนมาในโลกนี้มันมีอุปสรรคหลายสิ่งหลายอย่างอันเป็นเหตุที่จะให้เราได้ต่อสู้ การต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆนี่ทำให้บุญบารมีแก่กล้า ถ้าบุคคลไม่เห็นทุกข์ไม่เบื่อหน่ายในทุกข์ก็จะไม่ต่อสู้กับเหตุแห่งทุกข์ จะปล่อยตนให้ลอยไปกับเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ
เหตุที่เราเกิดมาในโลกนี้มันเต็มไปด้วยทุกข์ภัยพิบัติต่างๆแวดล้อมอยู่ชีวิตอันนี้น่ะ คอยคุกคามชีวิตอันนี้ให้ชำรุดทรุดโทรมไปเรื่อยๆ อันนี้ท่านเรียกว่า บริวารของความตาย เช่น เจ็บตา เจ็บหู ปวดศีรษะเจ็บแขนเจ็บขาอะไรหมู่นี้นะ มันบริวารของความตายทั้งนั้นเลย มันมาเตือนล่วงหน้าไว้ก่อนว่า ระวังให้ดี ไอ้ความตายมันจะมีอยู่ข้างหน้านั้นไม่นานนัก ต้องรีบสำรวมจิตใจของตนให้ดี อย่าปล่อยใจให้ตกไปในที่ต่ำ อันที่ต่ำนั้นท่านหมายเอาความโลภ ความโกรธ ความหลง สามอย่างนี้แหละ...เป็นเหวลึกของดวงจิตผู้ไปยึดมั่นถือมั่นกิเลสสามกองนี้ไว้ กิเลสสามกองนี้จะฉุดคร่าเอาจิตนี้ให้ตกลงไปในเหวแห่งความทุกข์ ความเดือดร้อนนานาประการ ดังนั้นน่ะให้พึงประคองจิตของตนไว้ให้ดี
ที่มา : ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ “พิจารณากายคลายอุปาทาน”