อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
วิปัสสนาจารย์ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ
เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่ง ใช้ชีวิตในช่วงตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงานไม่ต่างจากทุกคนแถมยังมีแต่ความสนุกสนานหลงมัวเมาในการใช้ชีวิตอย่างมาก แต่โดยนิสัยจะเคารพศรัทธาในพระศาสนาเป็นอันมากแทบจะเรียกได้ว่าเมื่อถึงวัด หรืออยู่กับพระสงฆ์องค์เจ้า แทบจะเป็นคนละคนเลย จะสนใจฟังธรรมะมากไม่ว่าจะมาจากใครหรือแหล่งใด จะรู้สึกเบิกบานมากเมื่อได้ฟังธรรม ในยามที่มีทุกข์จะมีทางเลือกด้านธรรมสอดแทรกเข้ามาเสมอ
นิสัยส่วนตัวไม่สนใจเรื่องงมงาย ไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆ เป็นประเภทอะไรก็ได้ อย่างไรก็ได้ สบายๆ เห็นเรื่องราวต่างๆในโลกแล้วมักสงสัยว่า ทำไมผู้คนต้องมีปัญหากันด้วยไม่เห็นน่าจะมีปัญหาเลยเพราะอะไรๆก็เป็นอย่าง นั้นอยู่แล้ว ไม่เคยดูหมอ เห็นคนดูหมอแล้วแปลกใจ ทำไมจึงตื่นเต้นเวลาที่เขาทักเราถูกทั้งนิสัย หรืออดีตที่ผ่านมา หรือแม้แต่อนาคตต่อให้ทายถูกก็เห็นแปลกเลย แล้วก็ไม่เห็นต้องรู้เลย เกิดอะไรขึ้นก็ว่ากันไป ไม่รู้จะรู้ไปทำไม ไม่ไหว้สิ่งไร้สาระ ประเภทเชื่อตามๆกันมาพอมีคนไม่เห็นด้วยไม่ศรัทธา ก็ยกคำว่า ?ไม่เชื่ออย่าลบหลู่? มาอ้าง
รู้ว่าเรื่องลี้ลับมีจริง แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องไปพึ่งพาอะไร เป็นคนรักการให้ ทำทานเป็นประจำ ทำบุญมากโดยไม่เคยสนใจสิ่งตอบแทน ไม่เคยอธิษฐานขออะไรทั้งนั้นเมื่อยามทำบุญเสร็จ
การศึกษา
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท MBA (Management) จาก Angelo State University, Texas สหรัฐอเมริกาในเวลาเพียง 14 เดือน ในปีพ.ศ.2529
การทำงาน
เคยทำธุรกิจโรงแรม จนเปิดบริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเข้าสู่ยุคไอเอ็มเอฟ ธุรกิจที่ทำเกิดปัญหาอย่างหนักจนต้องปิดตัวลง ชีวิตหันเหอย่างหนัก จนเข้าสู่เส้นทางการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
เริ่มต้น ชีวิตในทางธรรม
วัยเด็กตอนอายุ 15 ปีได้บวชเป็นสามเณรที่วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ จังหวัด สระบุรี เป็นเวลา 33 วันในช่วงปิดเทอม ในช่วงนั้นมีความปรารถนาที่จะบวชไม่สึก แต่ก็ต้องกลับมาเรียนหนังสือก่อน เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน บริษัทฯต้องเผชิญกับยุคไอเอ็มเอฟอันโหดร้าย ชีวิตต้องประสบกับปัญหาอย่างหนักจนบริษัทต้องปิดตัวลง มีความทุกข์มาก จนกระทั่งคุณแม่ (ยินดี) แนะนำให้ไปปฏิบัติธรรมใยหลักสูตรคุณแม่ ดร.สิริ กรินชัย ในปีพ.ศ.2540 ปฏิบัติในหลักสูตรนี้มา 5 ครั้งแล้วจึงมีโอกาสได้ปฏิบัติในหลักสูตรของพระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ในปีพ.ศ.2545 จนมีโอกาสได้บวชที่ยุวพุทธิกสมาคม ศูนย์2 โดยมีพระอาจารย์นวลจันทร์เป็นวิปัสสนาจารย์ ในระหว่างเข้าพรรษาของพ.ศ.2549
ในระหว่างพรรษานั้น ได้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆรวมถึงสภาวะที่เกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติ จนเป็นที่มาของหนังสือ ?ดูจิต หนึ่งพรรษา? สำนักพิมพ์อมรินทร์ โดยคุณเมตตา อุทกกะพันธุ์ เห็นว่ามีประโยชน์จึงขอนำไปพิมพ์เพื่อให้เกิดประโยชน์กับมหาชนและผู้กำลัง ปฏิบัติไปในวงกว้าง จนขึ้นอันดับ Best seller ของร้านนายอินทร์ และปัจจุบัน (30/01/51) เป็นการพิมพ์ครั้งที่6 หลังจากที่มาเริ่มทำงานเผยแผ่ได้สร้างสื่อธรรมะต่างๆ อย่างมากมายสำนักพิมพ์อัมรินทร์จังนำการบรรยายไปทำเป็นหนังสือ ซึ่งมีการย่อภาพการนำเสนอจึงทำให้หนังสือสื่อความเข้าใจต่อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในชื่อ "ดูจิต ชั่วพริบตา"ซึ่งติดอันดับหนังสือขายดีของร้านนายอินทร์เพียงสัปดาห์แรกที่ออกวางจำหน่ายจนได้รับการปั้มทองนูนลงไปที่ปกว่า Best Seller และหนังสือเล่มล่่าสุดเป็นการนำอริยมรรคมีองค์ ๘ จากพระโอษฐ์ มาสาธยายให้เข้าใจในทุกแง่มุมด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและปฏิบัติตามได้จริง ในชื่อ กลัวเกิด ไม่กลัวตาย (หนังสือแจกครั้งแรกในงานบรรยายที่ม.ราชมงคล โดยชมรมกัลยาณธรรม 9 ก.ค.54 ซึ่งมีผู้เข้าฟัง 5,000คน)
แนวทางในการปฏิบัติจะใช้คำสอนจากพุทธพจน์เป็นหลักโดยเฉพาะมรรค เพื่อให้ผู้ปฏิบัติทั้งหลายสามารถเข้าใจธรรมะได้อย่างถูกตรงด้วยคำจากพระโอษฐ์ โดยจัดทำเป็นสื่อทั้งภาพและเสียงเพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถเข้าใจในเวลาอันรวดเร็วและถูกต้อง ทุกวันนี้ทำหน้าที่สาวกผู้ทุ่มเทกำลังกายกำลังปัญญาเพื่อรับใช้พระศาสนาเพื่อให้เพื่อผู้ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตายได้พบกับพระธรรมที่พระศาสดาได้ตรัสรู้เพื่อยังสัตว์ให้พ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง
ถ้าถามผู้คนว่า อ.ประเสริฐ มีความโดดเด่นอย่างไร คนทั่วไปจะตอบเหมือนๆกันหลังจากได้ยินได้ฟังในคอร์สแล้วว่า ?สามารถสาธยายแจกแจงสิ่งที่เป็นนามธรรมที่ยากๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจได้ ลองมาพิสูจน์คำกล่าวนี้ดูด้วยตนเอง ธรรมของพระศาสดาท้าให้มาพิสูจน์เพียงต้องการคนจริง ปฏิบัติจริงแล้วท่านพระพบสัจจธรรมที่จริงแท้
ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/true/ethic_port_detail.php?author_id=67