วัดยางสุทธาราม
เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง แต่จะสร้างขึ้นในสมัยใดใครเป็นผู้สร้าง
ยังหาหลักฐานไม่พบจะขอนำเอาข้อความในหนังสือพระราชวิจารณ์ในจดหมายเหตุตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า
พระเจ้าตากมาตั้งกรุงธนบุรี เฉพาะเกี่ยวกับวัดนี้ฯ
ตั้งแต่กรุงเก่าเสียแล้วพระเจ้าตากมาตั้งเมืองธนบุรี...จุลศักราช
๑๑๔๓ ปีฉลู ตรีนิศก เวลาสามโมงเช้า ทรงบรรพชาฯ ๔ ทรงอยู่ในราชสมบัติ
๑๔ ปี กับ ๔ เดือน ทรงผนวชวันที่ ๔ ฯ พระยาสรรค์รักษาเมืองไว้
เจ้ารามลักษณ์สู้แต่ผู้เดียวโดยโมหาร เหลือแต่กำลังแตกหนีไปอยู่วัดยาง
พระวังหลังติดตามจับได้ฯ
หลักฐานบางประการแต่ไม่มีข้อยืนยัน
ว่ากันว่า วัดยางสร้างในสมัยกรุงธนบุรี โดยมีสามกรมเป็นผู้สร้าง
ประมาณปี พ.ศ.๒๓๑๓ ข้อสังเกตบางประการพอที่จะสรุปได้ว่า
วัดยางสุทธารามสร้างในสมัยกรุงธนบุรีก็คือ รูปทรงของโบสถ์มหาอุตม์
พิจารณาให้ดีจะมีรูปแบบที่คล้ายกับศาลเจ้าคือ มีประตูหน้าไม่มีประตูหลัง
อีกทั้งไม่มีช่อฟ้าใบระกาหงส์ ศิลปะลายปูนปั้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นศิลปะร่วมสมัยที่มีทั้ง
ไทย จีน และฝรั่ง ผสมผสานกัน ศิลปะแบบนี้นิยมทำกันในช่วงสมัยปลายอยุธยา
โบสถ์แบบมหาอุตม์ สันนิษฐานว่าผู้สร้างเป็นพี่น้องชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย
ชักชวนกันก่อสร้างเพื่อเป็นการเสริมบุญบารมีของพระเจ้าตากสินมหาราชฯ
พระประธานในโบสถ์เก่า หรือวิหารในปัจจุบัน
เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นหน้าตักกว่าประมาณ ๖๙ นิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ
ที่แปลกคือ นิ้วหัวแม่มือไม่จรดติดกัน นิ้วหัวแม่มือขวาจะอยู่สูงกว่าหัวแม่มือซ้าย
พระพักตร์อิ่มมีรอยยิ้มที่ประทับใจแก่ผู้มาถวายสักการบูชาหลวงพ่อ
การที่จะเห็นรอยยิ้มที่ประทับใจในองค์หลวงพ่อนั้น ต้องขอให้ทุกท่านนั่งและเข้ามาให้ใกล้องค์หลวงพ่อมากที่สุด
ถ้ายืนหรือนั่งอยู่ไกลจะสังเกตเห็นว่า พระพักตร์ของหลวงพ่อจะเคร่งขรึมค่อนข้างบึ้งตึง
" หลวงพ่อ" มีชื่อเรียกหลายชื่อ
เช่น หลวงพ่อโบสถ์เก่า หลวงพ่อดำ หรือหลวงพ่อใหญ่ ในปัจจุบันเรียกชื่อท่านว่า
" หลวงพ่อใหญ่"
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อรับรู้กันในเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับวัด
ที่ห่างวัดยังไม่ค่อยมีคนทราบถึงความศักดิ์ของหลวงพ่อ ทั้งนี้
เพราะขาดการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และไม่ได้มีการเปิดวิหาร
ให้สาธุชนทั่วไป ได้เข้าถวายสักการะ ฯ
|