วัดป่าอภัยคีรี
เป็นวัดในสายหลวงพ่อชา
สุภัทโท แห่งแรกในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซานฟรานซิสโก
มีเจ้าอาวาสร่วมกัน 2 รูป คือ พระอาจารย์ปสันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ
และพระอาจารย์อมโร อดีตรองเจ้าอาวาสวัดป่าอมราวดี
"อภัยคีรี"
เป็นภาษาบาลี มีความหมายว่า "ขุนเขาแห่งความปลอดภัย" ซึ่งเป็นชื่อวัดโบราณในศรีลังกา
ที่ต้อนรับพระภิกษุสงฆ์ต่างนิกายมาปฏิบัติธรรมร่วมกัน ด้วยความสมัครสมานสามัคคี
ด้วยความเชื่อว่า "ทุกชีวิตมีสิทธิ์ในการทำทุกข์ให้สิ้นได้เท่าๆ
กัน"
ปัจจุบัน วัดป่าอภัยคีรี
ในอเมริกา ก็ไม่แตกต่างกันนั้นคือ ได้เปิดโอกาสให้ผู้มีความประพฤติดี
ปฏิบัติชอบ รักในสติ รักในปัญญา ได้เข้าถึงความสงบ สัปปายะ เป็นธรรมชาติตามแนววัดป่าฝ่ายเ๔รวาท
ไม่ว่าผู้นั้นจะนับถือศาสนาใด นิกายไหน มีสีผิวอย่างไร ไม่เลือก เชื้อชาติ
เพศ อายุ
กว่าจะเป็น "อภัยคีรี" ![](../../pics/_brown.gif)
เมื่อ พ.ศ. 2520 หลวงพ่อชา ได้รับนิมนต์ไปสหรัฐอเมริกา
เพื่อแสดงธรรม และอบรมกรรมฐานแด่ญาติโยมชาวไทยและตะวันตกในครั้งนั้น
ผู้มีศรัทธาได้ปรารถกับหลวงพ่อ ถึงการเปิดสาขาวัดหนองป่าพงในอเมริกา
หลวงพ่อตอบว่า "รอไปเถอะอีก 20 ปีจะมีสาขาในอเมริกา"
พ.ศ. 2527 ท่านอาจารย์สุเมโธ
ศิษย์ชาวต่างชาติรูปแรกของหลวงพ่อชา ได้รับนิมนต์ไปแสดงธรรมและอบรมกรรมฐานแด่ชาวเมืองซานฟรานซิสโก
ประเทศอเมริกา และมีผู้ศรัทธาเป็นจำนวนมาก จึงได้รวมตัวกันก่อตั้ง
มูลนิธิสังฆปาละ ขึ้นในปี พ.ศ. 2531 เพื่อจัดหาสถานที่เหมาะสมแก่การสร้างวัดป่าที่ไม่ไกลจากซานฟรานซิสโก
จนกระทั่ง พ.ศ. 2538
คณาจารย์ Hsuan Hua เจ้าอาวาสวัดพระพุทธรูปหมื่นองค์ (The City of
Ten Thousand Bhuddhas) ฝ่ายมหายานได้เมตตามอบที่ดิน จำนวน 120 เอเคอร์
ใกล้วัดของท่านให้กับศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อชาก่อนที่ท่านจะมรณภาพ
คณาจารย์ Hsuan Hua ได้เคยปฏิบัติธรรมในประเทศไทยและประทับใจในแนวทางปฏิบัติฝ่ายเถรวาท
มีความปรารถนาที่จะเห็นการปฏิบัติธรรมร่วมกันของพระภิกษุฝ่ายมหายานกับเถรวาทอีกครั้ง
และเมื่อท่านได้พบกับท่านอาจารย์สุเมโธ ท่านทั้งสองมีความเคารพซึ่งกันและกันเป็นอันมาก
ที่ดินดังกล่าว มีลักษณะเป็นป่าบนภูเขา
มีความสงบร่มรื่นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม แต่ไม่มีทางเข้า-ออก ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ
มูลนิธิสังฆปาละ คณะศิษย์ชาวไทยและต่างประเทศ จึงได้รวบรวมทุนจัดซื้อที่ดินที่มีทางเข้าออก
พร้อมบ้านและโรงรถ พอที่จะดัดแปลงให้เป็นที่อยู่อาศัยได้ชั่วคราว ทำให้มีที่ดินรวมทั้งหมด
250 เอเคอร์
ในปี พ.ศ. 2540 พระอาจารย์ปสันโน
ได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ เพื่อมาก่อตั้งวัดป่าอภัยคีรี
และเป็นเจ้าอาวาสร่วมกับพระอาจารย์อมโร วัดป่าอภัยคีรีจึงเป็นสาขาแรกของวัดหนองป่าพง
ในประเทศอเมริกา และเป็นที่น่าประหลาดใจว่า นับระยะได้ 20 ปีพอดี จากวันที่หลวงพ่อชาไปเยือนอเมริกา
อภัยคีรีในปัจจุบัน ![](../../pics/_brown.gif)
"พระสร้างคน"
หลวงพ่อชาได้ให้หลักการไว้ให้มุ่ง
"สร้างวัดภายใน" เสียก่อน คือ สร้างกายวาจาใจ ที่มีวัตรปฏิบัติดี
ท่านเคยกล่าวด้วยว่า "ให้พระสร้างคน แล้วคนจะสร้างวัด"
พระอาจารย์ปสันโน
และ พระอาจารย์อมโร ดำเนินตามแนวทางของหลวงพ่อชา ในการอบรมถ่ายทอดความรู้และสอนการปฏิบัติธรรมให้แก่บุคคลทั่วไป
และผู้ปรารถนาจะใช้ชีวิตอย่างสมณเพศ ท่านอาจารย์ปสันโน ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
เพื่อความสะดวกในการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรใหม่โดยเฉพาะในอเมริกา
** หมายเหตุ ผู้สนใจจะบวชเป็นภิกษุ จะต้องถือศีล 8 เป็นผ้าขาว 1 ปี
บรรพชาเป็นสามเณร อีก 1 ปี จึงจะได้รับการพิจารณาให้บวชเป็นพระภิกษุ
"คนสร้างวัด"
ในปีแรกๆ ระหว่างรอการอนุญาตจากเทศบาลมลรัฐให้สร้างวัด
ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดมีศรัทธามาช่วยสร้างกุฏิหลังเล็กๆ โดยซื้อเศษไม้ราคาถูกมาประกอบ
และดัดแปลงรถนอนที่ได้รับบริจาคให้พออยู่ได้ หากคราวใดกุฏิไม่พอ ก็ใช้กางเต๊นท์เป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุ
สามเณร อานาคาริกะ (ปะขาว ) ไปชั่วคราว
ต่อมาเมื่อได้รับอนุญาตให้สร้างเป็นวัด
เทศบาลของมลรัฐกำหนดให้รื๊อถอนกุฏิที่พระและโยมสร้างกันเองออก รถนอนและเต๊นท์ก็ห้ามใช้อีกด้วย
เทศบาลยังกำหนดเคร่งครัดว่าจะให้พักที่วัดไม่เกินกี่คน
|
พระอาจารย์มิตซูโอะ
คเวสโก กับกุฏิหลังเล็ก คราวมาเยี่ยมวัดป่าอภัยคีรี เมื่อตุลาคม
พ.ศ. 2542
|
พระอาจารย์ปสันโน
กับที่สรงน้ำพระ-เณร ของวัดป่าอภัยคีรี
|
ทั้งนี้เพราะบางส่วนของวัดอยู่ในเขตที่มีแผ่นดินไหว
จึงต้องเคร่งครัดเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้กุฏิจึงไม่เพียงพอกับพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่
และไม่สามารถบวชภิกษุสามเณรใหม่ หรือรองรับผู้ปฏิบัติธรรมได้
|