ว้าววว..มหาสังฆทานปีละครั้ง!!!ใส่บาตรพระวิปัสสนา 380 รูป ที่พุทธมณฑล 6-17 ธ.ค.
2553@10.00น.
มหาสังฆทานปีละครั้ง!!!ใส่บาตรพระวิปัสสนา 380 รูป ที่พุทธมณฑล 6-17 ธ.ค.
2553@10.00น.
6-17 ธ.ค. 2553 มหาสังฆทานปีละครั้ง!!!...
ใส่บาตรมื้อเพล 10.00 น. สวนเวฬุวัน พุทธมณฑล
พระปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแนวสติปัฏฐานสี่ 380 รูป!!!
พระจาก มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (รวมพระมาจากต่างประเทศด้วย)
เนื่องจากทุกๆปี ทางมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (โทร 035 248000 ต่อ 8782 ฝ่ายวิปัสสนาธุระ)
จะมีพระนิสิตไปปฏิบัติวิปัสสนาแนวสติปัฏฐานสี่แบบเข้มข้น เป็นเวลาประมาณ 11 วัน
ปีนี้จัด ณ.สถานที่ต่างๆ 3 แห่ง ดังนี้
สำหรับในเขตกทม. จะมีการปฏิบัติที่ พุทธมณฑล ณ.สวนเวฬุวัน
(จะมีป้ายบอกตั้งแต่ปากทางเข้า โปรดอ่านวิธีการไปท้ายกระทู้นี้)
มีพระมาประมาณ 380 รูป ในช่วงวันที่ 6-17 ธ.ค. 2553
และมีการออกเดินเข้าแถวเพื่อให้ได้ใส่บาตรกัน เวลาประมาณ 10.00 น.
(วันที่ 5 เดินทางมาถึงประมาณบ่าย ไม่มีการเดินรับบิณฑบาต
วันที่ 17 เดินทางกลับตอนบ่าย มีการเดินรับบิณฑบาตวันสุดท้าย)
สำหรับต่างจังหวัดมีที่
มหาจุฬาอาศรม ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันที่ 6-17 ธ.ค. 2553 จำนวน 375 รูป
วันที่ 19-30 ธ.ค. 2553 จำนวน 416 รูป
แคมป์สน จ.เพชรบูรณ์
วันที่ 6-17 ธ.ค. 2553 จำนวน 248 รูป
วันที่ 19-30 ธ.ค. 2553 จำนวน 315 รูป
สอบถามรายละเอียดที่มหาจุฬาฯ วังน้อย อยุธยา โทร 035 248000 ต่อ 8782
ก่อนใส่บาตร จะขึ้นไปบนศาลา (ชื่อศาลามรรค 8) พระท่านจะให้ธรรมะสั้นๆ
กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล แล้วกล่าวคำถวายสังฆทาน
(ช่วงนี้ ให้ตั้งจิตถวายสังฆทาน ทั้งอาหารสดที่เตรียมมาใส่บาตร
และอาหารแห้ง เครื่องอุปโภค บริโภคต่างๆ ที่วางอยู่บนศาลา)
พระจะสวดยถา สัพพี สวดอนุโมทนาให้พร
พร้อมๆกันทั้งหมด 380 รูป โดยพระนั่งล้อมรอบ
และผู้ไปใส่บาตรนั่งอยู่ตรงกลาง เสียงสวดจากพระที่เพิ่งออกจากกรรมฐาน
มีพลังอานุภาพมาก จะก้องกังวาน ไปถึงในจิตใจเรา ทำให้เกิดปิติอย่างมาก
นับเป็นการสร้างกุศลที่ประทับใจอีกอันหนึ่ง
และยังฝังไว้ในความทรงจำได้ตลอดมา
คิดถึงครั้งใด ก็เกิดกุศลเต็มจิตใจทุกคราวไป
ส่วนตัวผมเอง ได้ไปที่นี่ต่อเนื่องมาหลายๆปี
และได้แนะนำญาติ และกัลยาณมิตรไปหลายครั้งแล้ว
ทุกท่านต่างก็ประทับใจกับมหาสังฆทานนี้
ปกติวันเสาร์-อาทิตย์จะมีคนไปใส่บาตรมากกว่าวันธรรมดา
หากท่านใดสะดวก ควรไปวันธรรมดา
เพราะอาหารขาดแคลน หากไปวันเสาร์อาทิตย์
จะแบ่งใส่เป็นอาหารแห้งบนศาลาขณะถวายสังฆทานบ้างก็คงจะดี
เราท่านทั้งหลายคิดถึงพระพุทธเจ้า ที่ทรงทนยากลำบาก
บำเพ็ญบารมีจนได้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพื่อนำความรู้นั้นมาสอนเราท่านทั้งหลายให้พ้นทุกข์
หากเราท่านทั้งหลายได้มีโอกาสใดๆ ในการช่วยจรรโลง
ให้ศาสนาพุทธอยู่ได้นานๆ ก็เป็นการตอบแทนพระคุณ ของพระองค์ท่านอย่างหนึ่ง
การทำนุบำรุงพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบในศาสนาพุทธ
ก็เป็นการช่วยจรรโลงพระศาสนาที่ดีอย่างหนึ่ง
ศาสนาพุทธของเราปัจจุบันนี้ ยังมีคำสอนของพระองค์ท่าน
อยู่อย่างสมบูรณ์ รอแต่เพียงเราท่านทั้งหลาย
มาตั้งใจปฏิบัติวิปัสสนากัน แล้วเราจะได้รับความสุข
ที่เหนือยิ่งกว่าความสุขใดๆในโลกนี้
ผมมีคำแนะนำเล็กน้อยสำหรับการบำเพ็ญมหาสังฆทานครั้งนี้นะครับ
1.ทางมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย มีจัดโรงครัวอยู่ที่นั่น
เพื่อทำอาหารให้พระนิสิตเมื่อเวลามีคนมาใส่บาตรน้อย
ผมเองคิดว่าถวายสังฆทานอาหารแห้งบางส่วนบนศาลาก็ได้นะครับ
เพื่อให้ที่โรงครัวไว้ทำอาหารในมื้อต่อไป
โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งทุกปีจะมีคนมา
ใส่บาตรมากกว่าวันธรรมดา แต่ถ้าจะให้เผื่อๆไว้
มีทั้งอาหารสดพร้อมทานใส่บาตร และอาหารแห้ง
ถวายสังฆทานบนศาลา ก็คงจะดีนะครับ
2. สำหรับการถวายปัจจัย (เงิน) ใส่ซองพร้อมกับการ
ใส่บาตร บางรูปอาจจะรับ บางรูปอาจจะไม่รับ
แต่ปกติจะมีพระอาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ตั้งเต้นท์ตั้งโต๊ะรับบริจาค
และก็มีผู้บริจาคเงินค่าภัตตราหาร เภสัช และอื่นๆถวาย ณ. บริเวณหน้างานนี้
3. ใส่บาตรมื้อเพล ควรไปถึง ประมาณ 9.00 น. เพื่อจัดของ
พระเริ่มพิธีตอน 10.00 น. เรามีเวลาเตรียมตั้งของได้ 60 นาที
ปกติจะมีโต๊ะและปลั๊กไฟฟ้าให้เสียบ สำหรับทำหรืออุ่นอาหาร
บริเวณหน้างานใกล้ที่จอดรถด้านขวา
มื้อเช้าทางมหาจุฬาฯจัดอาหารถวายพระ
แต่หากท่านใดสะดวกเวลาเช้า จะเอาอาหารไปใส่บาตรเสริมก็ดีครับ
ปกติคนไปตอนเช้าน้อยมากๆ
4. ควรเตรียมอาหารตามแต่ศรัทธา ปัจจัย ความพร้อม ของเราเอง
และต้องไม่ทำให้ตัวเราเองเดือดร้อน จะใส่สักรูป สองรูป จนถึง 380 รูป
ก็ได้กุศลมากเช่นกัน อาหารที่ใส่บาตร ท่านก็จะแบ่งๆกันฉัน
โดยรูปที่ได้รับมาก ก็จะใส่ไว้ในตะกร้าตรงกลางทางเดินบิณฑบาต
ให้รูปหลังๆที่ไม่ค่อยมีคนใส่บาตรได้เอาไปฉัน
5. ปกติทุกปี น้ำดื่มขวดPET ไม่เพียงพอ หากใครจะนำน้ำดื่ม
ไปถวายเป็นสังฆทานบนศาลาก็ดีมากๆนะครับ
(นำดื่ม 12 วัน พระทั้งหมดใช้ 12x380x2=9,120ขวดเล็ก)
ขอแนะนำสักเล็กน้อยในการใส่บาตรพระ เพื่อให้ได้เป็นสังฆทาน
1. ก่อนทำควรตั้งใจให้ดี ยินดีที่จะได้ทำกุศล
2. ขณะทำ ให้ตั้งใจไว้ 3 ประการอันเป็นองค์แห่งสังฆทานคือ
2.1 ไม่เลือกพระหรือเณรรูปใดเป็นการเฉพาะเจาะจง
2.2 ขณะถวายทานหรือใส่บาตร ให้ทำด้วยความเคารพ
2.3 ขณะถวายทานหรือใส่บาตร ให้ตั้งจิตระลึกถึงคุณของพระอริยบุคคล
โดยไม่ต้องคิดว่าพระที่เราถวายทานนั้นเป็นพระอริยบุคคลหรือไม่
ครบองค์สามประการนี้ก็จัดว่าเป็นสังฆทานแล้ว
ไม่จำเป็นต้องมีถังเหลือง
เพียงให้สิ่งของที่จะถวายนั้นเป็นของที่เราได้มาโดยบริสุทธิ์
คือซื้อหรือหามาโดยบริสุทธิ์ เงินที่ซื้อมาบริสุทธิ์
และของที่ถวายนั้นๆ ควรแก่การบริโภคของสมณะ
หากจะให้ดี ตัวเราควรอาราธนาศีล 5 ก่อนทำบุญด้วย
หากท่องภาษาบาลีไม่ได้ก็ว่าภาษาไทยง่ายๆเลย
มีผลบุญเท่ากัน
แต่ถ้าสามารถรักษาศีลห้า ได้ตลอดชีวิตจะยิ่งดีกับตัวเราเอง
การรักษาศีลห้าได้บุญมากกว่าการทำทานทุกอย่าง
(ลำดับขั้นของผลบุญ คือ ทาน ศีล ภาวนา)
3.หลังจากถวายทานแล้ว หากคิดถึงครั้งใด ก็มีปีติเกิดขึ้น
ก็เท่ากับได้ทำบุญซ้ำอีกครั้ง ดังนั้น ผมเลยถ่ายรูปเก็บเหตุการณ์
และบรรยากาศนั้นๆไว้ เมื่อมาเปิดดูก็มีปีติขึ้นมา
แต่หลังๆนี้ ผมไม่ต้องดูรูป แค่คิดถึงก็ปีติเกิดแล้ว
ภาพเหตุการณ์ที่ได้ใส่บาตรพระปฏิบัติกรรมฐาน
เดินมารับบาตรอย่างสำรวม แบ่งเป็นสองแถวซ้ายขวา
ก่อนใส่บาตร เราได้ขึ้นไปบนศาลาเพื่อกล่าวถวายสังฆทาน
และได้รับศีลรับพร แบบชนิด 360 องศา โดยเรานั่งอยู่ศูนย์กลาง
มีพระทั้งหมดนั่งล้อมรอบเรา ยิ่งกว่าดูหนัง IMAX เสียอีก มีปีติ สุข
ล้นขึ้นในใจแผ่ซาบซ่านไปทั้งกาย
(อย่าลืมมีสติดูอาการของปีติและสุขที่เกิดขึ้นด้วย
ไม่ให้หลงติดสุขนั้นๆเพราะทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปเป็นธรรมดา)
โดยสรุปนะครับ เพื่อให้บุญที่เราทำได้ผล อานิสงส์มาก
1. ก่อนใส่มีความตั้งใจทำทานและหวังผลของทานนี้
จะช่วยให้พระได้มีอาหารฉัน เพื่อมีกำลังปฏิบัติธรรมตามคำสอน
ของพระพุทธองค์ ได้สืบทอดพุทธศาสนา ยาวนานสืบไป
และตัวเราก็ควรต้องรักษาศีลให้ตัวเรามีศีลบริสุทธิ์
จะเสริมให้กุศลผลบุญยิ่งใหญ่ขึ้น
2. ขณะทำบุญถวายทาน ให้ตั้งใจเป็นสังฆทาน 3 ประการ
3. หลังทำ ให้มีความยินดีในกุศลทานนั้นๆ ยินดีครั้งใด
เหมือนกับได้ทำทานซ้ำอีก
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม
โปรดโทรถามที่ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
วังน้อย อยุธยา 035 248000 ต่อ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ 8782 (พระมหาเมธา จันทสาโร)
พระที่มาอบรมกรรมฐานนี้ เป็นพระมาจากทั่วสารทิศ
และมีพระจากต่างประเทศมาด้วยนะครับ
ทางไปง่ายมากครับ เข้าประตูใหญ่พุทธมณฑลไปรับบัตร
ผ่านตรงเข้าประตู ตรงไปเจอวงเวียนเลี้ยวขวา ตรงไป
เรื่อยๆตามทางที่จะไปองค์พระยืนใหญ่ จะพบสามแยกตัวที
เลี้ยวซ้ายไปองค์พระ เลี้ยวขวาไปสวนเวฬุวัน มีป้ายบอก
พระนิสิตปฏิบัติกรรมฐานมหาจุฬา ไปตามทางจะพบ
ป้ายเวฬุวัน(ป่าไผ่) ป้าย มหาจุฬา ป้ายพระปฏิบัติกรรมฐาน
ไปตามทางนั้นๆ ไม่ต้องกลัวหลงครับ หากหลงถามคนแถวนั้นได้
ถ้ายังอยู่ในพุทธมณฑลต้องไปถูกแน่ๆเลยครับ
ส่วนการเดินทางไปพุทธมณฑลโดยรถสาธารณะมีข้อแนะนำดังนี้ครับ
จากอนุสาวรีย์ชัย นั่งสาย ๕๓๙ ขึ้นด้าน รพ.ราชวิถี (รถแอร์สีเหลือง)
รถจะผ่านหน้าพุทธมณฑลเลย
หรือนั่ง 163 รถร้อน ตรงข้ามมาบุญครอง ไปลงสายพุทธมณฑลสาย 4
(น่าจะเข้าสาย 4 นะ เพราะอู่อยู่สาย 4 ต้นซอย) แล้วต่อสาย 84 ก หรือ 547
หรือนั่งรถตู้ ตรงข้ามมาบุญครอง ไปลงหน้าเดอะมอลล์ บางแค ต่อสาย 84 ก หรือ 547
หรือนั่ง 164 รถร้อน จากอนุสาวรีย์ ไปลงหน้าพุทธมณฑล
หรือนั่ง 515 รถยูโร ฝั่ง รพ.ราชวิถี จากอนุสาวรีย์ ไปลงพุทธมณฑล
หรือนั่งสาย 7 ทั้งรถร้อนและแอร์ จากหัวลำโพง ไปลงบางแค ต่อสาย 84 ก หรือ 547
(ทางไปโดยรถสาธารณะ ผมได้มาจากคนอื่นๆแนะนำครับ...สาธุจ้า)
ขอความสุขความเจริญในธรรมของพระตถาคตเจ้า
จงมีแก่ทุกๆท่านนะครับ
และขออนุโมทนา ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดี อายุยืนนาน
เพื่อจะได้มีเวลาทำกุศลมากๆนะครับ
หากกระทู้นี้รบกวนท่าน ต้องขออภัย และหากมีข้อความใดๆ
ที่ไม่สมควรไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง โปรดแจ้งบอกและหรือชี้แนะด้วยนะครับ
ขอเชิญดูรูป อ่านกระทู้ของงานปี2550 ตามลิ้งค์นี้นะครับ
http://larndham.org/index.php?showtopic=29521&st=0&p=450888&fromsearch=1&#entry450888
http://larndham.net/index.php?showtopic=29521&st=0
ส่วนปี2551 กระทู้หายไปในช่วงที่เวปลานธรรม server มีปัญหานะครับ
ส่วนกระทู้ของงานปี2552 ตามลิ้งค์นี้ครับ
http://larndham.org/index.php?/topic/37490-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%86%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%a3/page__p__674693__fromsearch__1&#entry674693
ใกล้ปีใหม่แล้วนะครับ คำให้พรปีใหม่ หรือคำให้พรใดๆ
เป็นเรื่องที่ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะถึงท่านทั้งหลายจริงไหม
แต่พรหรือสิ่งประเสริฐทั้งหลาย ที่เราท่านได้ทำเองนั้นแน่นอนกว่ามากนัก
เมื่อมาคิดถึงกุศลมหาสังฆทาน ที่เราท่านทั้งหลาย
จะได้ร่วมทำด้วยกัน หรือร่วมยินดีอนุโมทนา
สิ่งนี้คือพรปีใหม่ ที่ประเสริฐที่สุด ยิ่งกว่าคำอวยพรใดๆ
และพรนี้ จะเป็นที่พึ่งให้เราท่านทั้งหลาย ทั้งในชาตินี้ และภพต่อๆไป
และเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่จะทำให้เราท่านได้บรรลุมรรคผลนิพพาน
สาธุ....สาธุ....สาธุ
ขออนุโมทนากับทุกๆท่านครับ
งานมหาสังฆทานนี้ ทางมหาจุฬาฯจัดทุกๆปี หากปีหน้าช่วง พ.ย. - ธ.ค. 54
ผมยังมีชีวิตอยู่และมีโอกาส จะขอเรียนแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครับ