สมาธิ
สวัสดีค่ะ
สมาธิ คีอ สภาวะที่จิตตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียว มีได้ทั้งที่เป็นอกุศลจิตและกุศลจิตค่ะ
ไม่ว่าจะจับอารมณ์ในสิ่งที่เป็นอกุศล ก็เป็นสมาธิได้
หรือจับอารมณ์ในสิ่งที่เป็นกุศล ก็เป็นสมาธิได้
สมาธิ เป็นผล ที่เกิดจากการเจริญสมถะ ดังนั้น สมาธิทำไม่ได้ เจริญไม่ได้ อยากได้สมาธิ ต้องเจริญ สมถะ หรือเจริญกัมมัฏฐาน ซึ่งมีมากกว่า ๔๐ อย่างค่ะ เลือกสมถะหรือเลือกกัมมัฏฐานให้ถูกกับจริตของตน เพื่อให้เกิดผล คือสมาธิ
เลือกกัมมัฏฐานผิด สมาธิก็ไม่เกิดค่ะ .. นี่คือคำตอบของผู้ปฏิบัติผิดค่ะ
กัมมัฏฐานของคนหนึ่ง อาจจะไม่ตรงกับจริตของอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้น การเลือกกัมมัฏฐานที่ตรงกับจริตตน เท่ากันรับผลล่วงหน้า ไป 25 % แล้วค่ะ ที่เหลืออีก 75 % ก็เป็นองค์ประกอบอื่นๆ ค่ะ
...........................
ปัญญา ก็เป็นผล ที่เกิดจากการเจริญวิปัสสนา ดังนั้น เมื่อเป็นผล แล้ว จึงต้องไปเจริญเหตุที่ทำให้เกิดปัญญานะคะ
...............................
สมาธิเกิดได้ไม่ว่าจะเพศใด วัยใด ชาติใด ภาษาใด ศาสนาใด ฯลฯ
แต่ในพระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า
ถ้าจิตจับอามรมณ์ในสิ่งที่เป็นกุศล สิ่งที่ตามมาคือ "ปัญญา" จึงกล่าวได้ว่า สมาธิเป็นาเหตุให้เกิดปัญญา
ตังพุทธพจน์ที่พระผู้วีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
...............................
สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ฯ ... แปลว่า
ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง
Develop concentration. A bhikkhu who is concentrated understands things as they really are.
..............
วันนี้ท่านเจริญกัมมัฏฐานเพื่อการบังเกิดขึ้นของสมาธิ หรือยังคะ
ทำเดี๋ยวนี้เลยค่ะ
นิษวัน วรานุสาสน์