ตัณหามุ่งที่ผลงาน ฉันทะมุ่งที่การสร้างเหตุให้เกิดผล
วิชาหนึ่งที่นักปฏิบัติธรรมควรจะให้ความสำคัญระหว่างการภาวนา คือ วิชาว่าด้วยเรื่องแรงดลบันดาลใจ
แรงดลบันดาลใจ หนึ่งมีพลัง และสองประกอบด้วยสัมมาทิฏฐิ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการปฏิบัติอย่างได้ผล นักปฏิบัติจึงต้องศึกษาในเรื่องการปลูกฝังแรงดลบันดาลใจของตนถ้ายังไม่มี และดูแลรักษาเมื่อมีแล้ว ถ้ามัวแต่หวังกำลังใจจากภายนอก การปฏิบัติของเราก็คงไม่สม่ำเสมอ ถ้าเราได้วิชานี้แล้วไปที่ไหนการปฏิบัติก็ไม่ย่อหย่อน
แรงดลบันดาลใจที่เราต้องการ ท่านให้ชื่อว่าฉันทะหรือธรรมฉันทะ อุปสรรคต่อการสร้างฉันทะขั้นหยาบก็คือความเบื่อหน่ายในการปฏิบัติและความขี้เกียจขี้คร้าน แต่อุปสรรคขั้นละเอียดที่น่ากลัวและเป็นปฏิปักษ์ต่อธรรมฉันทะโดยตรงก็คือตัณหา
ตัณหาคือแรงดลบันดาลใจที่เป็นกิเลส คือทำให้จิตเศร้าหมอง ธรรมฉันทะคือแรงดลบันดาลใจที่ปลอดจากกิเลส ข้อสังเกตง่ายๆ คือตัณหามุ่งที่ผลงาน ฉันทะมุ่งที่การสร้างเหตุให้เกิดผล เช่น อยากได้ความสงบคือตัณหา อยากฝึกจิตให้สงบคือฉันทะ มีตัณหาเมื่อไหร่สงบไม่ได้ มีฉันทะเมื่อไหร่ความสงบเป็นที่หวังได้
อย่างไรก็ตามในเมื่อตัณหาและฉันทะเป็นเรื่องแรงดลบันดาลใจทั้งคู่ การที่เราจะแปลงตัณหาให้เป็นฉันทะได้ก็ไม่ยากนัก แต่ในขณะเดียวกัน ฉันทะเสื่อมเป็นตัณหาได้ง่ายเหมือนกัน เราจึงต้องตั้งสติจนสามารถแยกแยะสองข้อนี้ออกจากกันให้ได้ชัดเจน
พระอาจารย์ชยสาโร