พระมหาโกฏฐิตะ เป็นบุตรของอัสสลายนมหาพราหมณ์กับนางจันทวดีพราหมณี ในนครสาวัตถี ซึ่งสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เมื่อเจริญเติบโตแล้ว ได้ศึกษาศิลปวิทยาตามลัทธิของพราหมณ์จนจบไตรเพท
สมัยหนึ่งพระบรมศาสดาเสด็จเที่ยวประกาศพระศาสนาตามชนบทต่าง ๆ ได้ทรงทรมานอัสสลายนมหาพราหมณ์ผู้เป็นบิดาของท่านให้ละทิฏฐิมานะ ยอมตนเป็นอุบาสกแล้ว โกฏฐิตมาณพผู้เป็นบุตรเกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
วันหนึ่ง ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดา เกิดศรัทธาเลื่อมใสใคร่จะบรรพชาอุปสมบทในพระธรรมวินัยจึงได้ออกบวชในพระพุทธศาสนา มีท่านพระสารีบุตรเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาโมคคัลลานะเป็นพระอาจารย์
ตามประวัติท่านกล่าวว่า เมื่อเวลาปลงผมท่านได้พิจารณาในวิปัสสนากรรมฐาน พอผลัดผ้าสาฎกสำหรับนุ่งห่มของคฤหัสถ์ออกก็ได้บรรลุพระอรหัตตผลพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ ๔ วิชชา ๘ และวิโมกข์ ๓
พระมหาโกฏฐิตะนั้น เป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษา ไม่ว่าจะเข้าไปหาพระเถระผู้ใหญ่ก็ดี เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดาก็ดี มักถามปัญหาในปฏิสัมภิทาทั้ง ๔ เป็นประจำ ต่อมาพระบรมศาสดาทรงทำมหาเวทัลลสูตรให้เป็นต้นเหตุแล้วทรงตั้งท่านไว้ในเอตทัคคฐานว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทา ทั้ง ๔
เมื่อท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน