จะแก้อาการเครียดนอนไม่หลับได้อย่างไร (ดังตฤณ)




 ถาม
ก่อนนอนจะมีปัญหาค้างคาต่างๆมารุมเร้าให้เครียด นอนไม่หลับ ทรมานมาก
สลัดความคิดออกจากหัวอย่างไรก็ไม่สำเร็จ
เคยพยายามดูลมหายใจและบริกรรมพุทโธก็ไม่ไหว ยิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่
คุณดังตฤณพอจะมีอุบายวิธีอื่นที่ช่วยลดความเครียดก่อนนอนโดยเฉพาะบ้างไหมคะ?
อย่าบอกให้แก้ที่ตัวปัญหาอันเป็นต้นตอความเครียดนะคะ
เพราะพยายามแก้อยู่ แต่ก็ยังห่างไกลความสำเร็จอยู่มาก
 


 ตอบ 
ลองเอาลูกเหล็กที่เขาใช้ชกลม หรือวัตถุอะไรขนาดพอดีมือมากำไว้สิครับ กำให้แน่นเลย
เป็นการย้ายอาการจับยึดในหัวมาไว้ที่มือแทน
ความรู้สึกฝืนกำอย่างเป็นรูปธรรมที่มือจะลดความเครียดในหัวลงทันที
และยิ่งกำแน่นนานไป
คุณก็จะยิ่งเห็นความไร้สาระแก่นสารของการจับยึดอะไรไว้เปล่าๆ
ในที่สุดพอใจคลายก็หลับสบายไปได้เอง ผมแนะนำให้ทดลองอย่างนี้ก็ได้ผลกันดีครับ


และถ้าให้วิเศษกว่าอุบายวิธีข้างต้น ก็คืออาศัยสติยังดีอยู่
พิจารณาให้เกิดปัญญา มองให้เห็นเรื่อยๆว่าเราไม่ได้เป็นคนยึดมั่น
จิตเขาเป็นคนยึด และยางเหนียวที่เหนอะหนะไปทั้งจิตทั้งใจก็ไม่ใช่อะไรอื่น
มันคือหลักฐานที่แสดงให้เห็น ว่าระหว่างวันถ้าเราไม่ระวัง ไม่ดูแลรักษาจิตให้ดี ปล่อยปละละเลย
ยินยอมเอาขยะทางใจมาสะสมจนหมักหมมคั่งค้าง
ในที่สุดจะรื้อทิ้งได้ลำบากมาก ไม่ใช่แค่อยากทิ้งก็สลัดกันง่ายๆ


พิจารณาไปเรื่อยๆเช่นนี้ก่อนนอน จะมีผลอีกทีระหว่างวันใหม่
คือใจคุณจะเหมือนติดสัญญาณเตือนภัย
ถ้าเมื่อใดปล่อยจิตปล่อยใจให้คร่ำเครียดกับปัญหามากเกินไป
จะเกิดสติเตือนตนเอง ว่าเอาอีกแล้วนะ เก็บขยะใส่หัวเตรียมตัวตาแข็ง
เตรียมนอนเครียดหลับยากได้อีกแล้ว
ที่ความรู้สึกตัวตรงนั้น จิตคุณจะถอยออกมาจากอาการยึดมั่นเอง

แม้ยังทำหน้าที่แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันเหมือนปกติ
แต่จิตก็จะไม่หลงถลำหล่นลงไปแช่น้ำครำดำปี๋อย่างเคย
ทำได้อย่างนี้ก็นี่แหละคือการแก้ปัญหานอนไม่หลับอย่างตรงจุด
คุณยังไม่ต้องทำลายปัญหาภายนอก
ที่เข้ามากระทบใจให้สิ้นซากซึ่งอาจยากและต้องใช้เวลา
เพียงแค่กำจัดอาการยึดมั่นเหนียวแน่นอย่างไร้สติก็พอแล้ว


โรคนอนไม่หลับกำลังเป็นปัญหาใหญ่เข้าขั้นรุนแรง
หลายคนน่าเห็นใจมากๆ เพราะปัญหารุมเร้าตลอดศก
ไหนจะการงาน ไหนจะการรัก ไหนจะหนี้สิน ไหนจะอันตรายจากคนโฉด
ไหนจะโดนรมควันพิษทุกค่ำเช้า ไหนจะอบอ้าวในเมืองร้อน
เพราะทุกคนจำยอมแออัดอยู่ในแหล่งชุมชนใหญ่
เพื่อเอาตัวให้รอด (แบบไม่ค่อยปลอดภัย)


โรคเครียด โรคนอนไม่หลับนั้น อันที่จริงเป็นแค่ทุกข์ส่วนหนึ่ง
ทุกข์อันเกิดจากวิบากกรรม ทุกข์อันเกิดจากความไม่รู้จักวิธีคลายความยึดมั่นถือมั่น
หากจะแก้โรคทุกข์ทางใจให้ครอบจักรวาล
คุณจำเป็นต้องศึกษาพุทธศาสนาในเชิงปฏิบัติให้แจ่มแจ้ง


 การมีจิตคิดสละออก คิดให้ทาน เบิกบานใจ
จนรังเกียจความตระหนี่เหมือนรังเกียจกาวเหนียวเกรอะกรัง
จะก่อให้เกิดสภาพน่าอยู่ น่าสบาย แม้กายยังไม่รวยขึ้น ใจก็รวยขึ้นแล้ว


การใคร่รักษาความสะอาดของจิต คิดรักษาศีล ปลอดโปร่งโล่งใจ
จนรังเกียจความประพฤติทุศีลเหมือนรังเกียจขี้เยี่ยวโสมม
จะก่อให้เกิดสภาพปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุข
แม้กายยังไม่อบอุ่นปลอดภัยขึ้น ใจก็อบอุ่นปลอดภัยขึ้นแล้ว


การรู้สติไม่ปล่อยให้จิตเตลิดเปิดเปิง คิดปล่อยมากกว่าคิดยึด
เบาสบายไปทั้งจิต จนกระทั่งรังเกียจอาการยึดมั่นกามผิดๆ
และรังเกียจความผูกใจอาฆาตพยาบาทไร้ประโยชน์
ความรังเกียจเรื่องสกปรกนั้นเองจะก่อให้เกิดสภาพไกลบาป
พ้นเรื่องน่ากลัดกลุ้ม
แม้กายยังไม่อาจหลีกไปจากวงล้อมของเหล่าทรชนคนบาป
ใจก็ห่างบาปออกมามากแล้ว 



 พุทธเราแก้โรคได้ครอบจักรวาล และเป็นการแก้ที่ต้นเหตุจริงๆ
แก้ปัญหาระยะยาวกันจริงๆ เพียงแต่คุณจำเป็นต้องศึกษาให้ทั่วถึง
ปฏิบัติตนให้ครบพร้อม แล้วจะพบว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มแน่ๆครับ 



 ที่มา...เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่ม ๘
คุณดังตฤณ 
http://www.dungtrin.com/prepare/archieve/prepare102.htm
 ภาพประกอบจาก...  http://www.fotosearch.com/bthumb/CSP/CSP286/k2865037.jpg
   

7,730







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย