ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ อุปถัมภ์ทำบุญ ** สร้างกุฏิกรรมฐาน ** (ปิดวาจา) จำนวน 5 หลัง ((เพื่อความมั่นคงในชีวิต))

      1 มิ.ย. 2558


((รับเจ้าภาพผู้อุปถัมภ์))..สร้างกุฏิพระธูดงค์กรรมฐาน (ปิดวาจา) จำนวน 5 หลัง .. จากจำนวน 10 หลัง

ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิกรรมฐาน (ปิดวาจา) จำนวน 5 หลัง (จาก 10 หลัง) ณ สวนป่าพุทธอุทยานวิปัสสนา...
(((ซึ่งขาดเเคลนที่อยู่อาศัย ..สำหรับพระภิกษุที่จะเข้ารับการอบรมกรรมฐาน ตลอดปีในขณะนี้)))


ขอเชิญร่วมทำบุญอุปถัมภ์..สร้างกุฏิพระกรรมฐาน(ปิดวาจา) 4 หลัง(เสร็จล่ะ6 หลัง) ซึ่งขาดเเคลนมากในขณะนี้
เพื่อเป็นสถานที่สำหรับพักอาศัย เเละจำพรรษาของพระภิกษุ-สามเณร ซึ่งมีจำนวนมากในขณะนี้

ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิพระธุดงค์กรรมฐาน จำนวน 10 หลัง
ณ สำนักวิปัสสนากรรมฐาน "สวนป่าพุทธอุทยานวิปัสสนา" อ.สามง่าม จ.พิจิตร
(ในพุทธอุทยานประวัติศาสตร์มหาราชหยกขาว)


.........ขอเชิญร่วมสร้างกุฏิกรรมฐาน จำนวน 10 หลั (ขาด เจ้าภาพอีก 4 หลัง) ณ สำนักวิปัสสนากรรมฐาน " สวนป่าพุทธอุทยานวิปัสสนา" อ.สามง่าม จ.พิจิตร เพื่อใช้ในการฝึกอบรมสำหรับพระที่จะเข้ารับการฝึกอบรมถือธุดงค์กรรมฐาน ในการเข้ารับการฝึกอบรม ตลอดปี (เป็นส่วนหนึ่งของบุญที่จะเกิดกับพระธุดงค์กรรมฐาน ด้วยการอุปถัมภ์สร้าง กุฏิพระกรรมฐาน(ปิดวาจา)อันจะเป็นการเพื่มความสัปปายะเเก่การปฏิบัติสมณะธรรม..อันสงัด

.........เนื่องด้วยทางสวนป่าพุทธอุทยานวิปัสสนา..ได้จัดให้มีโครงการฝึกอบรมพระธุดงค์กรรมฐาน 2 เดือน ครั้ง เเต่เนื่องจากในช่วงหน้าฝนจะมีฝนตก เเละมีสัตว์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย จึงทำให้การปลักกลด พักจำวัตรปฏิบัติภาวนาใต้ต้นไม้..จึงเป็นเรื่องลำบาก ไม่สะดวก อีกทั้ง ในช่วงฝนตก ยังมีสัตว์ มีพิษต่างๆ ที่ร้ายเเรง อาทิ งู ตะขาบ เเมลงป๋อง เเละอื่นๆ รบกวนการปฏิบัติสมณะธรรม จึงทำให้พระที่จะเข้ารับการฝึกอบรมปฏิบัติธรรม พระกรรมฐาน ใต้ต้นไม้รุกขมูล ถือธุดงค์วัตร เกิดความไม่สะดวกในการปฏิบัติธรรม จึงทำให้การปฏิบัติธรรมเป็นไปด้วยความยากลำบาก

..........ดังนั้นจึงขอเชิญชวนสาธุชนร่วม สร้างกุฏิพระธุดงค์กรรมฐาน(ปิดวาจา) จำนวน 10 หลัง เพื่อให้เเล้วเสร็จ เเละป็นประโยชน์ในการใช้งานบำเพ็ญภาวนา ตลอดปี 2560 ต่อไป ซึ่งจะมีนาคที่ร่วมอุปสมบทหมู่เข้ารับการอบรมปฏิบัติธรรมภาวนาถือ "ธุดงค์กรรมฐาน" ตลอดปี ปีล่ะ 5 รุ่น คือรุ่นวันมาฆบูชา ,รุ่นวันวิสาขบูฃา, รุ่นวันอาสาฬหบูชา , รุ่นวันปิยมหาราช ,รุ่นวันพ่อเเห่งชาติ

.........ด้วยเหตุนี้จึงขอเชิญสาธุชนผู้เห็นความสำคัญในการสนับสนุนงานเผยเเผ่พระศาสนาทุกท่าน ที่มีกำลังเเรงศรัทธาในการสนับสนุนงานสร้างพระธุดงค์กรรมฐาน(ถือธุดงค์วัตร)ร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมสร้างกุฏิพระธุดงค์กรรมฐาน จำนวน 10 หลัง (จำนวนจำกัด)
.....ทุกเจ้าภาพที่ร่วมสร้างกุฏิเเต่ล่ะหลังจะได้จารึกชื่อเป็นเกียรติเเก่วงศ์ตระกูล เเละได้รับอานิสงส์ผลบุญที่จะเกิดจากการที่พระธุดงค์กรรมฐานจะเข้ารับการปฏิบัติธรรม เเบบวิเวกในป่า ณ สวนป่าพุทธอุทยานวิปัสสนา จ.พิจิตร (ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่ดำเนินการพัฒนาเพื่อให้เหมาะสำหรับกาปฏิบัติธรรมถือธุดงค์) (((หลังสร้างเสร็จเเล้วคณะเจ้าภาพสามารถร่วมถวายกุฏิกรรมฐานเเด่คณะสงฆ์ได้ตามกำหนดเวลางานต่อไป )))


จุดมุ่งหมายในการสร้าง

๑.เพื่อบังเเดดบังฝน (สำหรับพระที่จะเข้ารับการอบรมถือธุดงค์กรรมฐาน ทุก3เดือน)
๒.เพื่อเป็นสถานที่พักสำหรับพระภิกษุที่จะเข้าปฏิบัติธรรมพระกรรมฐานในโครงการอบรมปฏิบัติธรรมโครงการต่างๆ
๓.เพื่อเป็นสถานที่ในการบำเพ็ญสมณะธรรมอย่างเเบบวิวเวก(สำหรับนาคที่จะเข้าอุปสมบทหมู่)
๔.เพื่อเป็นกุฏิกรรมฐาน(ปิดวาจา) สำหรับพระภิกษุที่จะเข้ารับการอบรมภาวนาที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม
๕.เป็นที่พักสำหรับพระภิกษุนักปฏิบัติกรรมฐาน ในช่วงฤดูฝน..อันจำเป็นต้องพักอาศัยในที่มุมบังมิดชิด


เพื่อป้องกันฝนเเละอัตรายจากสัตว์ ต่างๆ

(((การให้ที่อยู่อาศัย...ได้ชื่อว่าได้บุญมาก...เพราะการให้ที่อยู่อาศัยชื่อว่าให้ทุกสิ่ง....เพราะเมื่อมีที่อยู่อาศัย..ย่อมมีการสร้างบุญ...การทำความดี...เเละจะมีการปฏิบัติธรรม..รักษาศีล...เขริญสมาธิ..เเละเจริญปัญญาภาวนา...เเละการให้ที่อยู่อาศัยเป็นบ่อเกิดของบุญทุกประกาศ......)))


(( สามารถร่วมบุญได้ดังนี้ ))

๑.เป็นเจ้าภาพร่วมสร้างกุฏิกรรมฐานปิดวาจา ๑ หลัง

-ถวายกุฏิกรรมฐาน(ปิดวาจา) พระนวกะ จำนวน 4 หลัง ...อาคารเเบบทรงไทย
* จองเป็นเจ้าภาพ อุปถัมภ์ 1 หลัง ๕๐,๐๐๐ บาท

* ถ้าร่วมอุปถัมภ์สมทบการก่อสร้าง ๒๕,๐๐๐ บาท / (รับ ๒ ท่านเจ้าภาพ ต่อหลัง)

(ติดชื่อเจ้าภาพที่กุฏิกรมฐาน (พระนวกะ) เป็นมงคลเกียรติยศประจำตระกูล)


-ถวายกุฏิกรรมฐาน(ปิดวาจา) พระเถระ,พระอาจารย์ จำนวน ๕ หลัง...อาคารเเบบทรงไทย
(มีเเบบปูน เเละเเบบไม้สัก)

* ถ้าจองเป็นเจ้าภาพสร้างเเบบปูน หลังล่ะ 85,๐๐๐ บาท /
หรือ กุฏิไม้สักทั้งหลัง สร้างถวายหลังล่ะ18๐,๐๐๐ บาท
เเละเเบบทรงไทย ปูน สร้าง 10 หลัง อุปถัมภ์หลังล่ะ 250,000 บาท



(ติดชื่อเจ้าภาพที่กุฏิกรรมฐาน(ปิดวาจา) พระเถระ เป็นมงคลเกียรติยศประจำตระกูล)


๒.เป็นเจ้าภาพ จอง 1 กอทุน สร้างกุฏิกรรมฐาน(ปิดวาจา)

๓.เป็นเจ้าภาพ(ร่วม) สร้างกุฏิพระธุดงค์กรรมฐาน (ตามกำลัง)

๔.สามารถเเนะนำหมู่คณะ เพื่อรวบรวมปัจจุย ถวายเป็นกองผ้าป่า เพื่อสร้างกุฏิกรรมฐาน(ปิดวาจา)ได้
เพื่อจะได้เเนะนำให้คนที่เรารักได้มีส่วนร่วมในบุญ (ได้อานิสงส์มาก) ..ในครั้งนี้




(( ระยะการดำเนินการสร้าง ))

ดำเนินการถวายหลังเสร็จการสร้างเเละจะเเจ้งคณะศรัทธาอีกครั้ง
เพื่อนัดถวายกุฎิกรรมฐานเพื่อฝากไว้ในพระพุทธศาสนา.ให้เหล่าพระภิกษุที่เดินทางมาบำเพ็ญสมณะธรรมตลอดปี ต่อไป




(((ทุกรายชื่อคณะเจ้าภาพจะติดเป็นชื่อกุฏิกรรมฐาน..เพื่อเป็นเกียรติยศวงศ์ตระกูล ที่กุฏิ)))

...ขอความเจริญรุ่งเรื่องจงบังเกิดมีเเด่ผู้ประสงค์เเละเห็นความสำคัญในการสร้างศีลธรรม,
สร้างธรรมะเเด่สาธุชนชาวพุทธ..ขออานุภาพเเห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระพุทธศาสนาจงปกปักษ์รักษาคุ้มครอง อำนวยอวยชัยให้สำเร็จในหน้าที่การงาน..เเด่ผู้ร่วมบุญเเละ ร่วมเเนะนำข่าวสารบุญในครั้งนี้เพื่อให้เกิดความสำเร็จ ตามจุดมุ่งหมายในการสร้างกุฏิที่พักพระกรรมฐาน เเด่พระภิกษุสงฆ์นักปฏิบัติ..ต่อไป



(( ดูกิจกรรมการอบรมภาวนาพระธุดงค์กรรมฐาน รุ่นต่างๆได้ กดที่ลิงค์ ))

เฟ็สบุ๊ค ศูนย์พุทธบริษัทสากล




(( สามารถโทรจอง.ไว้ก่อนเพื่อเป็นเจ้าภาพก่อนได้(ก่อนเต็ม) ))

ติดต่อเจ้าหน้าที่..สวนป่าพุทธอุทยานวิปัสสนา
โทร. 09-30375441
ไลน์ dhamma2559
เฟ็สดูกิจกรรมของศูนย์ ชื่อ ศูนย์พุทธบริษัทสากล


[url]
[url]
[url]
[url]
e-mail....lamphongdhamma@hotmail.com[/url[/url[/url[/url
]]]]


(รับชมภาพการดำเนินงานการสร้างกุฏิได้)
หรือที่ http://www.dhammadee.com



(( ดำเนินโครงการสร้างหมู่กุฏิกรรมฐาน(ปิดวาจา) ))

โดย..มูลนิธิพิจิตรกตัญญู, ชมรมพุทธบุตรบารมี,
สำนักวิปัสสนากรรมฐาน "สวนป่าพุทธอุทยานวิปัสสนา" จ.พิจิตร
เเละสาธุชนทั่วไป จิตอาสา




// อานิสงส์ของการสร้างกุฏิกรรมฐาน, วิหาร กล่าวในพระไตรปิฏก //

ในกาลครั้งหนึ่งนั้น สมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จประทับอยู่ ณ ลัฎฐิวันสวนตาลหนุ่ม พระองค์เที่ยวโปรดเวไนยสัตว์ให้ได้มรรค 4 ผล 4 ในครั้งนั้น พระเจ้าพิมพิสารได้ครองราชสมบัติที่กรุงราชคฤห์ก็มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า แล้วก่อสร้างกุฎีวิหารในพระราชอุทยานเวฬุวันสวนป่าไม้ไผ่ให้เป็นวัดแรกในพุทธศาสนา ถวายแก่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ 500 รูป พร้อมกับถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน สมเด็จพระบรมศาสดาพร้อมกับภิกษุสงฆ์เส็รจภัตตากิจเรียบร้อยแล้ว พระเจ้าพิมพิสารทูลถามว่า
"ภนฺเต ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญสาธุชนทั้งหลายมีใจศรัทธา ปสันนาการ เลื่อมใสการก่อสร้างกุฎีวิหารถวายเป็นสังฆทานนั้น จะได้ผลานิสงส์เป็นประการใด ขอให้พระองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาให้ข้าพุทธเจ้าพร้อมบริษัททั้งหลายให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า" องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนาว่า
"ดูกรมหาบพิตรพระราชสมภาร บุคคลผู้ใดมีจิตศรัทธาเลื่อมใสพระรัตนตรัย แล้วก่อสร้างกุฎีวิหารศาลาคูหาน้อยใหญ่ถวายเป็นทาน จะประกอบด้วยผลอานิสงส์มากเป็นเอนกประการนับได้ถึง 40 กัลป์" พระองค์ทรงนำอดีตนิทานมาเทศนาต่อไปว่า
ในอดีตกาลล่วงมาแล้ว พระพุทธเจ้ายังมิได้อุบัติบังเกิดในโลกยังศูนย์เหล่าอยู่สิ้นกาลช้านาน ในระหว่างนั้นพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลายก็ได้บังเกิดตรัสรู้ในโลกนี้ เมื่อพระปัจเจกโพธิเจ้าก็อาศัยในป่าหิมพานต์ อยู่มาวันหนึ่งมีความปรารถนาเพื่อจะมาใกล้หมู่บ้านอันเป็นว่านแคว้นกาสิกราชมาอาศัยอยู่ในรายป่าแห่งหนึ่งแถบใกล้บ้านนั้น มีนายช้างคนหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านนั้นก็ไปป่ากับลูกชายของตนเพื่อจะตัดไม้มาขายกินเลี้ยงชีพตามเคย ก็แลเห็นพระปัจเจกโพธิเจ้านั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พ่อลูกสองคนก็เข้าไปใกล้น้อมกายถวายนมัสการแล้วทูลถามว่า "ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าจะไปไหน จึงมาอยู่ในสถานที่นี้"
พระปัจเจกโพธิ จึงตอบว่า "ดูกรอาวุโส บัดนี้จวนจะเข้าพรรษา"
นายช่างก็อาราธนาให้อยู่จำพรรษาในที่นี้พระปัจเจกโพธิทรงรับด้วยการดุษณียภาพสองคนพ่อลูกก็ดีใจ จึงขออาราธนาพระผู้เป็นเจ้าเข้าไปสู่เรือน ถวายบิณฑบาตทานแก่พระปัจเจกโพธิสองคนพ่อลูกก็เที่ยวตัดไม้แก่นมาทำสร้างกุฎิวิหารที่ริมสระโบกขรณีใหญ่และทำที่จงกรมเสร็จแล้ว จึงได้ขออาราธนาพระผู้เป็นเจ้าจงอยู่ให้เป็นสุขเถิดพระเจ้าข้า ครั้นพระปัจเจกโพธิได้รับนิมนต์แล้ว สองคนพ่อลูกตั้งปฎิธานความปรารถนาขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากทุกข์ยากไร้เข็ญใจ และขอให้ข้าพเจ้าทั้งสองนี้ได้เป็นพระอรหันต์ขีณาสพผู้ประเสริฐองค์หนึ่งเถิด พระปัจเจกโพธิก็รับอนุโมทนาซึ่งบุญ
นายช่างสองคนพ่อลูกอยู่จนสิ้นอายุขัยแล้ว ก็ทำกาลกริยาตายไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีวิมานทองเป็นที่รองรับและเทพอัปสรแวดล้อมเป็นบริวารเสวยทิพย์สมบัติอยู่ในสวรรค์สิ้นกาลช้านาน ครั้นเมื่อจุติจากสวรรค์นั้นแล้วก็ไปบังเกิดเป็นราชบุตรของพระเจ้าสุโรธิบรมกษัตริย์ในเมืองมิถิลามหานคร ทรงพระนามว่ามหาปนาทกุมาร ครั้นเจริญวัยขึ้นจึงได้เสวยราชสมบัติเป็นพระยาจักรพรรดิราช ด้วยอานิสงส์ที่ได้สร้างกุฎีวิหารถวายเป็นทานแก่พระปัจเจกโพธิ ครั้นตายจากชาติเป็นพระยามหาปนาทแล้ว ก็เวียนว่ายตายเกิดในมนุษย์สมบัติสวรรค์สมบัติ แล้วก็มาเกิดเป็นเศรษฐีมีทรัพย์ 80 โกฎิ อยู่ในภัททิยนครชื่อว่า "ภัททชิ" ก็ได้ปราสาท 3 หลังอยู่ใน 3 ฤดู รั้นเจริญวัยได้บวชในศาสนาสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในศาสนาของตถาคตดังนี้แล ส่วนเทพบุตรองค์พ่อนั้น ยังเสวยทิพย์สมบัติอยุ่ในวรรค์ช้านานจนถึงศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ลงมาตรัส สัพพัญญู เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในมนุษย์โลก ได้จุติลงมาปฏิสนธิในครรภ์พระอัครมเหสีสมเด็จพระเจ้ากรุงเกตุมวดี ทรงพระนามว่าสังขกุมาร ครั้นเจริญวัยแล้วก็ขึ้นครองราชสมบัติทรงพระนามว่าสมเด็จพระเจ้าสังขจักรบรมกษัตริย์ มีทวีปน้อยใหญ่เป็นบริวาร พระองค์จึงได้สละราชสมบัติบ้านเมืองออกไปบรรพชา ในสำนักพระศรีอริยเมตไตรย์กับทั้งบริวาร 1 โกฎิ ก็ได้ถึงอรหันต์ ได้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา ทรงพระนามอโสกเถระ
ก็ด้วยอานิสงส์ได้สร้างกุฎีให้เป็นทานนั้นแล อันเป็นบุญให้ถึงความสุข 3 ประการ คือ
มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ

........................................
ตลอดถึงยังมีส่วนในบุญที่พระกรรมฐานท่านได้ใช้สวยอันเกิดประโยชน์การสร้างพักอาศัยในกุฏิกรรมฐานเพื่อบำเพ็บบารมีธรรม..อีกทั้งยังเป็นการสร้างเหตุปัจจัยในการเข้าถึงธรรมะไม่มากก็น้อยในการบำเพ็ญสมณะธรรม..ของพระกรรมฐานที่ได้ใช้พักพึงในกุฏิ....ของผู้อุปถัมภ์สร้างกุฏิกรรมฐานครั้งนี้


ขออานุภาพเเห่งความตั้งใจทำความดีจงดลบัลดารให้ทุกท่าจงโชคดีไดเกุศลผลบุญจากการร่วมบุญกันทุกท่านเทอญ

ที่มา : (การให้ที่อยู่-อาศัย ชื่อว่าเป็นผู้ให้ทุกอย่าง)- www.dhammadee.com

3,046






จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย