มมร.วุ่น-เล็งปลดอธิการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) โดยมีนายกสภา อุปนายกสภา เข้าร่วมประชุม ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้หารือกรณีการสืบสวนข้อเท็จจริงและข้อร้องเรียนพระเทพปริยัติวิมล ซึ่งที่ประชุมมีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา 2 แนวทาง โดยแนวทางที่ 1 ให้ปลดอธิการบดีออกจากตำแหน่ง แล้วดำเนินการตั้งคณะธรรมยุตเข้าไปดำเนินการบริหารงาน มมร.ชั่วคราว แนวทางที่ 2 ให้พักงานอธิการบดีไว้ชั่วคราว ทั้งนี้ ที่ประชุมยังไม่มีมติว่าจะเลือกทางใดทางหนึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกสภา และอุปนายกสภามหาวิทยาลัยว่าจะดำเนินการอย่างไร
ด้านนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความและอดีตผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกฎหมาย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) กล่าวว่า การที่เรียกประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยนั้นถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ ทั้งยังมีการออกหนังสือเชิญประชุมโดยประทับตราของวัดราชบพิธฯ ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะการประชุมสภามหาวิทยาลัยไม่ใช่กิจการของวัด ขณะเดียวกันการที่กรรมการสภามหาวิทยาลัยนำเรื่องจากผู้ร้องเรียนซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ทาง มมร.ฟ้องศาลดำเนินคดีฐานทุจริตโดยการแอบอ้างชื่อ มมร.เรี่ยไรเงิน ทั้งที่ จ.กาฬสินธุ์ และที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มาพิจารณาจนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงพระเทพปริยัติวิมลนั้น ขอตั้งข้อสังเกตว่านายกสภามหาวิทยาลัย และอุปนายกสภามหาวิทยาลัย รวมทั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยบางท่าน มีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับอดีตรองอธิการบดีมมร. ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ร้องเรียนหรือไม่ ที่สำคัญการแสดงออกของกลุ่มผู้ร้องเรียนที่เป็นจำเลยใน 2 คดีดังกล่าวยังแถลงต่อศาลที่ จ.กาฬสินธุ์ แสดงตนเป็นปฏิปักษ์ต่อการดำเนินคดีนี้
นอกจากนี้ ยังแถลงต่อศาลว่าทางนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการมีมติให้ถอนฟ้องด้วย ทั้งที่ 2 คดีนี้เป็นคดีอันยอมความไม่ได้ จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อขอให้พิจารณาถอดถอนนายกสภามหาวิทยาลัย และอุปนายกสภามหาวิทยาลัย โดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ.2540 มาตา 18 (4) ที่ให้อำนาจสมเด็จพระสังฆราชถอดถอนนายกสภามหาวิทยาลัยได้