อย่าเห็นเป็นของเล็กน้อยในการที่จะสงบจิตสงบใจไหว้พระสวดมนต์ภาวนาเช้าๆ เย็นๆ ก่อนนอนอะไรกันบ้าง มันก็เป็นเครื่องช่วย ระบายนิสัยเลวๆ ออกไป
"จาคะ – บริจาค นี่ใช้กับสิ่งของก็ได้ ข้าวของเงินทองอะไรก็ตามที่เป็นวัตถุ บริจาคออกไป นี้ก็บริจาคความรู้สึกคิดนึกนิสัยสันดานเลวๆ ออกไป ก็ต้องบริจาคออกไป
บริจาคสิ่งที่ควรบริจาค ออกไปเสียจากจิตใจ อย่าเอาไว้ในจิตใจ จริตหรือนิสัยที่เลวนั้น สันดานที่เลวนั้นจะต้องสละออกไป ต้องมีการไขออก ระบายออก อย่างนี้อยู่เรื่อยๆ ไป เราจึงจะรักษาหลักต่างๆ ไว้ได้ ไม่นั้นจะมีความกดดันมากจนเรียกว่าทน ทนไม่ไหว จริงใจอยู่ไม่ไหว บังคับตัวเองไม่ไหว อดกลั้นทนไม่ไหวเพราะมันมีความกดดันในส่วนนิสัยสันดานมันมากเกินไป
อย่าเห็นเป็นของเล็กน้อยในการที่จะสงบจิตสงบใจไหว้พระสวดมนต์ภาวนาเช้าๆ เย็นๆ ก่อนนอนอะไรกันบ้าง มันก็เป็นเครื่องช่วย ระบายนิสัยเลวๆ ออก ไป แล้วก็สร้าง หิริ โอตตัปปะ ขึ้นมา
นี่คุณคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องพ้นสมัยแล้ว เป็นเรื่องของคนโง่เง่า หรือเป็นเรื่องของปู่ย่าตายายที่พ้นสมัยแล้ว ในการที่จะมา ไหว้พระสวดมนต์บ้าง เช้าๆ เย็นๆ หรือมานั่งนึกรำพึงถึงสังขาร อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาบ้าง อย่าเข้าใจผิดว่านี้มันไม่มีประโยชน์หรือพ้นสมัยแล้วหรือว่ามันไม่เกี่ยวกับเรา เพราะว่านั่นแหละคือ ไอ้รูเล็กๆ ที่จะเปิดไขระบายไอ้นิสัยสันดานเลวๆ ออกไปเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อยมันจะได้มีเหลือ ความกดดันน้อย แล้วเราจะทนได้ ไอ้เรื่องที่เรา จะต้องทนนี่มันจะทนได้"
- พุทธทาสภิกขุ -