การภาวนาแบบพุทธคือความเพียรที่จะเผยให้เห็นคำถามอันมีสาระต่อชีวิต และเพียรตอบคำถามเหล่านั้น
หากเรายินดีถอยห่างออกมา ไม่ปล่อยตัวไปตามกระแสชีวิตอันเชี่ยวกราก เราจะตระหนักว่าชีวิตอันแสนสั้นและไม่มีอะไรแน่นอนนี้กำลังตั้งคำถามแก่เราว่า อะไรเป็นสาระ อะไรไม่เป็นสาระ อะไรควรค่า อะไรควรค่ามากที่สุด น่าแปลกใจว่ามีคนน้อยมากที่สนใจจะถามตัวเองแบบนี้ เราอยู่ในยุคสมัยซึ่งเต็มไปด้วยคนฉลาดที่มัวแต่ขวนขวายทำงานในลักษณะเบียดเบียนตนหรือผู้อื่น หรือไม่ก็ทำงานซึ่งในที่สุดแล้วหาแก่นสารอะไรไม่ได้ มีคนจำนวนมากเหลือเกินที่เฝ้าหาคำตอบฉลาดๆ ให้แก่คำถามอันโง่เขลา
ในคาถาธรรมบท (คาถาที่ ๑๑ ยมกวรรค) พระพุทธองค์ตรัสว่า
“ชนเหล่าใดเห็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ ชนเหล่านั้นมีความคิดผิดเป็นพื้นของจิตใจ ย่อมไม่ได้พบสาระ
ส่วนชนเหล่าใดรู้สิ่งที่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และรู้สิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ ชนเหล่านั้นมีความคิดถูกเป็นพื้นของจิตใจ ย่อมได้พบสาระ”
อาจกล่าวได้ว่า การภาวนาแบบพุทธคือความเพียรที่จะเผยให้เห็นคำถามอันมีสาระต่อชีวิต และเพียรตอบคำถามเหล่านั้น
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ