นมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตำบล พร้อมชมความอลังการของถ้ำมรดกโลก โดยสายการบินเจ๊ตแอร์เวย์ (9W)

 ambika tour  

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2555 (1) กรุงเทพ –กัลกกัตา – ปัตนะ

13.00 น. คณะนัดพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินเจ็ทแอร์เวย์ แถว P ประตู 8
16.00 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 071
17.05 น. คณะถึงสนามบินเมืองกัลกัตตา หลังรับสัมภาระและผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
(นำท่านเปลี่ยนเครื่อง)
19.25 น. ออกเดินทางจากสนามบินภายในประเทศกัลกัตตา สู่เมืองปัตนะ โดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่
9W7078
20.30 น. ถึงสนามบินเมืองปัตนะ หลังรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / พักที่

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2555 (2) ปัตนะ – ไวสาลี – ราชคฤห์ – นาลันทา – คยา

05.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมือง ไวสาลี นครหลวงของแคว้นวัชชี ในสมัยพุทธกาล เป็นแคว้นที่เจริญรุ่งเรืองมากปกครองแบบคณราชย์หรือสามัคคีธรรม เมืองนี้มีชื่อหลายชื่อคือ ไพสาลี, ไวสาลี และเมืองนี้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่ง รวมทั้งเป็นที่กำเนิดของพระมหาวีระศาสดาของศาสนาเชนและที่เป็นต้นกำเนิดของการทำน้ำมนต์ในพุทธศาสนา เนื่องจากได้เกิดทุพิกขภัยร้ายแรงทั่วเมืองเวสาลีมีคนตายมากมาย กษัตริย์ลิจฉวีจึงได้นิมนต์ให้พระพุทธเจ้าได้มาโปรดชาวเมือง พระพุทธเจ้าจึงนำเหล่าภิกษุ 500 รูป เดินทางไปโปรดที่เมืองเวสาลีพร้อมทั้งได้มีการประพรมน้ำมนต์ทั่วทั้งเมือง นำท่านเที่ยวชม วัดป่ามหาวัน ชม เสาอโศก ที่สมบูรณ์ที่สุดและงดงามที่สุดของอินเดียและนมัสการ ปาวาลเจดีย์ วัดป่ามหาวัน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองราชคฤห์

เที่ยง รับประทานอาหารระหว่างทาง

บ่าย ถึงเมืองราชคฤห์ นำท่านขึ้นเขาคิชกูฏ เพื่อนมัสการและทำสมาธิ . กุฎิพระพุทธองค์, กุฏิพระอานนท์ , ถ้ำสุกรชาตาที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์และที่พระเทวฑัตกลิ้งก้อนหินใส่พระองค์ ชมวัดอัมพวันของหมอชีวกโกมารภัจน์ จากนั้น นำท่านชมมหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของพุทธศาสนา วัดเวฬุวันวิหาร วัดแห่งแรกในพุทธ ศาสนา ที่พระเจ้าพิมพิสารได้ถวายให้แก่พระพุทธองค์และคณะสงฆ์ ชมมูลคันธกุฎิของพระพุทธเจ้า และสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เป็นที่อาบน้ำของพระภิกษุสงฆ์ ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินกลับเมืองคยา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เข้าพัก

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2555 (3) คยา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
นำท่านสู่มหาสถูปเจดีย์พุทธคยา สถานที่ประทับตรัสรู้อริยสัจธรรมบรรลุรู้แจ้งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณสำเร็จเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในคืนพระจันทร์เต็มดวงแห่งเดือนวิสาขะ เมื่อก่อนพุทธศักราช 45 ปี นมัสการสัตตมหาสถานคือสถานที่ประทับเสวยมุตติสุข (สุขเกิดแต่ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะและปวงทุกข์) 7 สัปดาห์ กราบนมัสการพระพุทธเมตตา เพื่อขอพรภายในวิหารเจดีย์ พุทธคยา ให้ท่านได้นั่งปฎิบัติธรรมตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอหารภายในโรงแรม

บ่าย นำท่าน ชม บ้านนางสุชาดา ธิดากุฎมพี แห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ผู้ถวายข้าวมธุปายาส อันประณีตแด่พระมหาบุรุษก่อนการตรัสรู้ อยู่ห่างจากฝั่งแม่น้ำเนรัญชราประมาณ 200 เมตร ปัจจุบันเป็นโบราณสถานซากสถูปขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ชม แม่น้ำเนรัญชรา สายน้ำที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานจิตลอยถาดทองคำที่นางสุชาดาถวายพร้อมข้าวมธุปายาสก่อนวันที่จะตรัสรู้หนึ่งวัน
เที่ยวชมวัดพุทธนานาชาติ อาทิ วัดไทยพุทธ คยา วัดญี่ปุ่น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / พักที่

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2555 (4) คยา - พาราณสี – สารนาถ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองพาราณสี เป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสี เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดแห่งหนึ่งตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม

บ่าย นำท่านสู่สารนาถ ชมธัมเมกขสถูป สถานที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ก่อ
นพุทธศักราช 45 ปี อันเป็นวันอาสาฬหบูชา ชมมูลคันธกุฎิ ,ธัมเมกขสถูป, ชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ ภายในมีหัวเสามีหัวสิงห์อยู่ 4 หัว และชมพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดคือพระปางปฐมเทศนา
เย็น นำท่านล่องแม่น้ำคงคา ชมพิธีการอาบน้ำล้างบาปของชาวฮินดู ชมท่าเผาศพควันไฟไม่เคยดับ ชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมอธิษฐานขอขมาต่อพระแม่คงคา จากนั้นเดินทางกลับโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเช้า

หลังอาหารเช้า นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองพาราณสี ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เข้าพัก

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน 2555 (5) พาราณสี – กุสินารา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองกุสินารา เมืองหลวงของแคว้นมัลละ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง

เที่ยง รับประทานอาหารระหว่างทาง

บ่าย ถึงเมืองกุสินารา ชมปรินิพพานสถูปหรือสาลโนทยาน นมัสการสถานที่พระพุทธองค์ทรงดับขันธปรินิพพาน ต่อมาพระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างสถูปไว้เป็นรูปทรงกลม มีขนาดใหญ่มาก มียอดแหลมคล้ายฉัตร 3 ชั้น ซึ่งปรินิพพานนี้อยู่ด้านหลังปรินิพพานวิหาร ชมปรินิพพานวิหาร เป็นวิหารที่สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหินแกะสลักปางปรินิพพาน ชมมกุฎพันธเจดีย์ นมัสการสถานที่ถวายพระเพลิง พระบรมศพของสมเด็จพระบรมศาสดา ลักษณะเป็นเจดีย์อิฐแดงเก่าเรียงเป็นชั้นๆมีขนาดใหญ่มาก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เข้าพัก

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2555 (6) กุสินารา – ลุมพินี (เนปาล)

( โปรดเตรียมหนังสือเดินทางที่ด่านชายแดนอินเดีย-เนปาล)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม นำท่านเยี่ยมชมวัดไทยกุสินารา เฉลิมราชย์ ตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม

บ่าย ออกเดินทางสู่เมืองลุมพินี สถานที่ประสูติพระพุทธองค์ ขณะที่ยังดำรงเป็นเจ้าชายสิทธัตถะใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะวัดไทย 960

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เข้าพัก

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2555 (7) ลุมพินี (เนปาล) – สาวัตถี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
นำท่านชมวิหารมายาเทวี สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระนางสิริมหามายา พระพุทธมารดา ชมภาพหินแกะสลักขนาดใหญ่ เป็นรูปพระนางสิริมหามายาเทวี ทรงใช้พระหัตถ์เบื้องขวาจับกิ่งสาละไว้ ทรงประสูติพระราชกุมารสิทธัตถะ พระกุมารซึ่งเพิ่งประสูติออกมา กำลังประทับยื่น มีดอกบัวบานรองรับพระบาทและรอบๆพระเศียรมีรัศมีปรากฏอยู่ ชมสระน้ำที่สรงพระวรกาย ชมเสาหินพระเจ้าโศก ณ สถานที่ประสูติ ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะปัจจุบันเสาหินพระเจ้าอโศกนี้ไม่มีหัวเสามีแต่เสาล้วนๆ และบนตัวเสายังคงมีการจารึกเป็นอักษรพราหมี 5 บรรทัด

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองสาวัตถี เมืองหลวงของแคว้นโกศลใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
(ผ่านด่านขายแดนโสโนรีอีกครั้งหนึ่ง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เข้าพัก


วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2555 (8) สาวัตถี – ลัคเนาว์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
นำท่านชมวัดเชตวันวิหารสถานที่พระพุทธองค์ทรงประจำพรรษานานที่สุดผู้สร้างคือท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ภายในอารามประกอบด้วยธรรมสภา,มูลคันธกุฏิของพระบรมศาสดา,อานันโพธิ์หรือต้นโพธิ์พระอานนท์,กุฎิพระสีวลี, พระมหากัสสปะ ชมบ้านบิดาองคุลีมาล , บ้านอนาฑบิณฑิกเศรษฐี

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม

บ่าย เดินทางสู่มืองลัคเนาว์ เมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เข้าพัก

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555 (9) ลัคเนาว์ - บอมเบย์


เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
นำท่านชมตัวเมืองลัคเนาว์ ชมสภาพบ้านเมืองของเมืองลัคเนาว์ ชมมัสยิด

11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นเดินทางสู่สนามบินเมืองลัคเนาว์

13.50 น. ออกจากสนามบินเมืองลัคเนาว์ โดยสากยการบินเจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 7038

15.55 น. ถึงสนามบินบอมเบย์ หลังรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่สนามบินภายในประเทศ

( เปลี่ยนเครื่อง)
18.25 น. ออกเดินทางสู่เมืองออรังกาบัด โดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9 W2511

19.25 น. คณะถึงสนามบินเมืองออรังกาบัด นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เข้าพัก

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555 (10) ออรังกาบัด – อาจันต้า – ออรังกาบัด

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
หลังอาหารเช้าเดินทางสู่ถ้ำอจันตา (AJANTA CAVE) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถ้ำนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNSECO เมื่อปี ค.ศ.1983 นำชมจิตรกรรมฝาผนังซึ่งเป็นศิลปกรรมสมัยคุปตะ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 11 แต่ได้ถูกกลบฝังไว้อย่างโดดเดี่ยว ภายใต้ธุลีดินเป็นเวลานานถึง 800 ปี จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ได้มีทหารอังกฤษกลุ่มหนึ่งค้นพบโดยบังเอิญในช่วงการล่าอาณานิคม ถ้ำอจันตาประกอบไปด้วยถ้ำเล็กๆรวม 28 ถ้ำที่ขุดเข้าไปในภูเขา และเรียงกันเป็นแนวอยู่เหนือหุบเขา สร้างขึ้นเพื่อการจำศีลภาวนาของศิษย์ตถาคต อันเป็นหนทางนำมาซึ่งการใฝ่หาคุณธรรมด้วยศรัทธาอันแรงกล้าที่เพียรสลักหินโดยใช้เพียงค้อนและสิ่วจนสำเร็จและชมภาพเขียนสี ซึ่งจะพบได้บริเวณด้านหน้าและด้านตะวันตกของผนังถ้ำ ภาพส่วนใหญ่จะเป็นคำสอนทางศาสนาที่สอนให้คนเกรงกลัวต่อการประพฤติผิดในกาม โดยจะปรากฏอยู่ถึง 9 ถ้ำ จากจำนวนทั้งหมด ชมผนังถ้ำภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 1,200 ปี มีความงดงามสมบูรณ์ด้วยเทคนิคการเขียนภาพสามมิติอันน่าอัศจรรย์ ชมพระพุทธรูปศิลา ที่แสดงสีหน้าที่ต่างกันเมื่อแสงสะท้อนจากต่างมุม

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน

บ่าย นำท่านเดินทางกลับเมืองออรังกาบัด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เข้าพัก
วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2555 (11) ออรังกาบัด – เอลโลร่า – ออรังกาบัด – บอมเบย์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
หลังอาหารเช้านำชมถ้ำเอลโลรา (ELLORA CAVES) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้ำนี้เป็นศาสนสถานที่ขุดเข้าไปในภูเขาในสมัยราชวงศ์คุปตะ งดงามยิ่งด้วยฝีมือการสลักหินให้เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ ระหว่างศตวรรษที่ 5-8 มีทั้งหมด 34 ถ้ำด้วยกัน ซึ่งมีพุทธสถาน 12 ถ้ำ ศาสนสถานของเชน 5 ถ้ำ และเทวสถานในศาสนาฮินดู 17 ถ้ำ ซึ่งทั้งหมดใช้เวลานับร้อยปี ในการสลักหินอันแข็งแกร่งทั้งภายในและภายนอกถ้ำให้ออกมาเป็นงานอมตะ สร้างขึ้นด้วยศรัทธาของช่างฝีมือที่เป็นชายทั้งหมด ซึ่งเดินทางมาจากแดนไกลในแคว้นต่างๆ บรรจงสลักด้วยเทคนิคชั้นสูง โดยแบ่งหน้าที่กันสลักด้านบนด้วยการใช้นั่งร้านกลุ่มหนึ่งและด้านล่างกลุ่มหนึ่ง รูปสลักที่เป็นจุดเด่นของถ้ำ กินเนื้อที่ถึง 1,700 ตารางเมตร จากทั้งหมด 6,500 ตารางเมตร คือถ้ำศาสนาฮินดูหมายเลข 16 เป็นรูปของเขาไกรลาส เชื่อกันว่าเป็นที่ประทับของพระศิวะ ซึ่งสวยงามมาก หมู่ถ้ำเอลโลราได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNSECO เมื่อปี ค.ศ.1983
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านเดินทางกลับเมืองออรังกาบัด / อิสระช้อปปิ้ง ตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารค่ำ / จากนั้นเดินทางสู่สนามบิน
20.15 น. ออกเดินทางสู่เมืองมุมไบ โดยสายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 2512
21.15 น. คณะถึงสนามบินภายในประเทศเมืองมุมไบ หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบิน นานาชาติเมืองมุมไบ

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน 2555 (12 ) บอมเบย์ – กรุงเทพ
01.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 062
07.40 น. คณะถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ



6,236






จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย