ที่ตั้งของวัดแห่งนี้ เดิมทีเป็นผืนนาที่โยมแม่ของพระอาจารย์ยกถวาย หลังจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล กลับจากการออกธุดงค์ ได้มาใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญภาวนาและพำนักแต่เพียงผู้เดียว ในระหว่างนั้นสถานที่ดังกล่าวค่อยๆ ได้รับการพัฒนาตามลำดับ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ หรือประมาณ ๘ ปี นับแต่ท่านได้มาอยู่บำเพ็ญภาวนา สถานที่แห่งนี้จึงได้ขึ้นทะเบียนตั้งเป็นวัดนาป่าพงจวบจนถึงปัจจุบันพระอาจารย์มาอยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ หลังจากบวชในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ที่วัดบุญญาวาส (พระอาจารย์ตั๋น ) เป็นสาขาของวัดหนองป่าพง ก่อนบวชเคยตั้งใจว่าไม่อยากอยู่วัดใหญ่อยากอยู่วัดเล็กๆ ที่เป็นป่าสงบๆ ก็เลยหาวัดเล็กๆ อยู่แต่ก็เป็นเหตุปัจจัยเหมือนกัน เลยได้มาอยู่ที่วัดนาป่าพงปัจจุบันเพราะมีโยมเขาถวายที่ ๒ – ๓ ที่ก็เลยมากับพระอาวุโส ( ๑๐ กว่าพรรษา ) อีก ๒ท่านด้วยกัน หลังจากมาดูแล้วท่านก็เลือกสถานที่ตรงนี้ ( เดิมเป็นป่าต้นพงรกมาก )ขณะนั้นพระอาจารย์มีพรรษายังไม่ถึง ๕ พรรษา ต้องอยู่กับครูบาอาจารย์ ๆท่านพิจารณาตัดสินใจพระอาจารย์ก็ตกลงอยู่ตรงนี้ ก็อยู่มาเรื่อย ๆไม่เคยคิดว่าจะเป้นวัดเป็นวาอะไร และก็ไม่เคยรู้ว่าวัดสร้างได้ไม่มีปัญหาอะไรตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะอยู่ไปสักพักหนึ่งภาวนาไปสักพักหนึ่งก็จะไปหาวัดอยู่อยู่ไปอยู่มาก็ดี เพราะเคยไปมาหลายที่หลายวัด ไม่เคยเจอแบบพระอาจารย์ต้องการเลยเพราะวัดส่วนใหญ่มีแต่งานก่อสร้าง จึงคิดว่าบวชมาแล้วต้องมาทำงานก่อสร้างทางโลกก็คงไม่ถูกต้อง เพราะหลังฉันแล้วก็ต้องไปต่อท่อ ทาสี แบกอิฐ หินปูนทรายทำการก่อสร้าง ก็ไม่เข้าใจว่าบวชมาแล้วมาทำอะไรกัน ทำไมไม่เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนาจึงเป็นอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งของนักบวช ซึ่งเมื่อบวชเข้ามาแล้วจะหาสถานที่ที่จะเดินจงกรม นั่งสมาธิ อย่างเดียว มีน้อยมากมีไม่ถึง ๑๐ % ของวัดทั่วประเทศที่ประธานสงฆ์จะมีนโยบายให้พระภาวนาอย่างเดียว งานทางโลกอย่าไปแตะว่าจ้างให้ฆราวาสเขาทำทั้งหมด จึงคิดว่าที่นี่เขาก็ให้อยู่ได้ไปเรื่อยๆก็เลยอยู่มาจนมีเหตุปัจจัยได้เป็นวัดนาป่าพงขึ้นมา
จองห้องพักภาวนาได้ที่เบอร์086-084-6299 084-123-2450
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://www.watnapahpong.org/index.aspx