ค้นหาในเว็บไซต์ :

พระธรรมดิลก (จันทร์ กุสโล) วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่

 ธรรมะไทย  


"สักวา แดนดิน ถิ่นสงบ จะค้นพบ แดนใด สุดใฝ่หา
พื้นพิภพ ทั่วทั้ง ฝั่งคงคา บนเวหา สรวงสวรรค์ ชั้นพรหมินทร์
แดนสงบ อยู่ที่ใจ ใช่ที่อื่น ใจชุ่มชื่น ด้วยความดี ใจมีศีล
ใจสงบ พบความสุข ทั่วแดนดิน ถิ่นสงบ พบได้ ที่ใจเอย"

ประวัติ : พระธรรมดิลก (จันทร์ กุสโล) วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
• นามเดิม : จันทร์ แสงทอง
• กำเนิด : 26 พ.ย. 2460
• สถานที่เกิด : อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
• บรรพชา : บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ. เมือง จ.เชียงใหม่
• อุปสมบท : ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2480 โดยมี พระพุทธิโสภณ (แหวว) เป็นพระอุปัชฌาย์
• ธรรมศึกษา : เปรียญธรรม 5 ประโยค ในปีพ.ศ. 2483
• สมณศักดิ์ : พระธรรมดิลก
• เจ้าอาวาส : วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ. เมือง จ.เชียงใหม่
• มรณภาพ : วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 สิริอายุรวม 91 ปี พรรษา 71

หลวงปู่เข้าสู่เพศบรรพชิตโดยบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ. เมือง จ.เชียงใหม่ ท่านสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค ในปีพ.ศ. 2483

ท่านให้ความสนใจต่อการพัฒนาชนบท และการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง โดยได้อุทิศตนเพื่องานดังกล่าวอย่างไม่ย่อท้อ กระทั่งสามารถสร้างผลงานด้านการพัฒนาชนบท และการศึกษาจนเป็นที่ ยอมรับโดยทั่วไป อาทิเช่น - ร่วมกับมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย จัดตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งชื่อว่า สภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา - จัดตั้งมูลนิธิเมตตาศึกษา และโรงเรียนเมตตาศึกษา ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เพื่อช่วยเหลือให้เด็กยากจนได้มี โอกาสศึกษาเล่าเรียนแบบให้เปล่าทั้งด้านทุนการศึกษา ผู้อุปการะ ที่พักอาศัย อุปกรณ์การเรียน เป็นต้น -

จัดตั้งมูลนิธิศึกษาพัฒนาชนบท เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในชนบทที่ด้อยการศึกษาได้รับการพัฒนาถึงระดับ ที่สามารถช่วยเหลือตนเอง และชุมชนได้ ทั้งด้านอาชีพทางการเกษตร และงานฝีมือท้องถิ่น โดยมีแนวคิดในการ พัฒนาที่ว่า "เศรษฐกิจ จิตใจ ต้องแก้ไขพร้อมกัน"

ผลงานจำนวนมากที่หลวงปู่ท่านได้สร้างไว้ล้วนเป็นผลงานที่มีคุณประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติอย่างมาก กระทั่งท่านได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากหน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ มากมาย เช่น

- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโล่รางวัล "มหิดลวรานุสรณ์" แก่สภาสังคม สงเคราะห์แห่งประเทศไทย เพื่อถวายแด่หลวงปู่ ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชน สังคม และประเทศชาติ
- ได้รับการถวายรางวัลศิลปินแห่งชาติ ด้านวัฒนธรรมดีเด่น สาขาภูมิปัญญาชาวบ้าน ประจำปี 2538

นับได้ว่าหลวงปู่เป็นพระเถระรูปสำคัญของล้านนาไทยที่บำเพ็ญศาสนกิจตลอดระยะเวลาแห่งเพศบรรพชิต โดย ให้การศึกษา การเผยแพร่ศาสนธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพุทธศาสนิกชนมาโดยตลอด คุณงามความดีของท่านได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน ควรแก่การเคารพบูชายิ่ง


24






จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย