พระสาคตเถระ

ประวัติ : พระสาคตเถระ

   ท่านพระสาคตเถระ ถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์ ในเมืองสาวัตถี มารดาตั้งชื่อว่า "สาคตมาณพ" ครั้นเติบโตแล้วได้สดับพระธรรมเทศนาในสำนักพระบรมศาสดา เกิดศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนา จึงได้บรรพชาอุปสมบท ทำฌานสมาบัติ ๘ ประการ ให้บังเกิดขึ้น มีความชำนาญในองค์ฌานนั้น ๆ ต่อมาพระบรมศาสดาเสด็จจาริกไปตามชนบท บรรลุถึงภัททวติกาคามในเมืองโกสัมพี ได้ประทับอยู่ในบ้านนั้น

    ท่านพระสาคตะได้ตามเสด็จไป ตามนำนานกล่าวไว้ว่า ณ ที่ท่าชื่อว่า อัมพะ มีพญานาคมีฤทธิ์เดชกล้า ชื่อว่า อัมพติฏฐนาค ท่านพระสาคตะได้ทำการทรมานพญานาคนั้นจนสิ้นฤทธิ์เดช แล้วได้กลับไปยังสำนักพระบรมศาสดาที่ภัททวติกาคาม

    เมื่อเสด็จประทับอยู่ในบ้านนั้นตามสมควรแก่พุทธอัฌยาศัยแล้ว ชาวบ้านได้ทำการรับเสด็จพระองค์ตามสมควร เมื่อได้ทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าสาคตะได้สู้กับพญานาคซึ่งอยู่ ณ ท่าชื่อว่า อัมพะ มีชัยชนะ พากันปีติยินดี มีความประสงค์จะหาของอย่างดีเป็นที่พอใจถวาย จึงได้เข้าไปหาท่านพระสาคตะไหว้แล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควรแล้วเรียนถามท่านว่า

    ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ผู้เจริญ อะไรเป็นของหายาก และชอบใจยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ (พวก ๖ รูป) จึงบอกแก่อุบาสกเหล่านั้นว่า สุราอ่อน ๆ ใสสีแดงดังเท้านกพิราบเป็นของหายาก ทั้งเป็นของถูกใจยิ่งของภิกษุทั้งหลายด้วย ท่านทั้งหลายจงจัดหาสุราเหล่านั้นไว้ถวายเถิด

    อุบาสก อุบาสิกาเหล่านั้นจึงจัดสุรานั้นไว้ทุก ๆ หลังคาเรือน เมื่อเห็นพระสาคตเถระเที่ยวบิณฑบาตจึงนิมนต์ท่านว่า ขอพระผู้เป็นเจ้าจงดื่มสุราอ่อน แดงใสดังเท้านกพิราบก่อนเถิด พระเถระก็ได้ดื่มสุรานั้นทุกหลังคาเรือน จนมึนเมาหลงลืมสติ เพราะฤทธิ์สุรา เมื่อออกจากเมืองก็ล้มลงตรงประตูเมือง

    พระบรมศาสดาทรงทราบ จึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายพยุงเธอไปสู่วิหาร ทรงตำหนิด้วยถ้อยคำมีประการต่าง ๆ ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ แล้วทรงบัญญัติสิกขาบท ห้ามภิกษุไม่ให้ดื่มสุราอีกต่อไปว่า สุราเมรยปาเน ปาจิตฺติยํ แปลว่า เป็นอาบัติปาจิตตีย์ เพระดื่มสุราเมรัย

    วันรุ่งขึ้น พระสาคตะสร่างเมาได้สติแล้ว กราบทูลขอขมาให้พระบรมศาสดาทรงยกโทษให้แล้ว บังเกิดความสลดสังเวชใจในการกระทำของตนนั้น นับแต่นั้นมา ท่านก็ทำความเพียรเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล เป็นพระอเสขบุคคลในบวรพุทธศาสนา ในกาลต่อมา

    เมื่อพระบรมศาสดาประทับอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร ได้ทรงตั้งท่านพระสาคตเถระไว้ในตำแหน่งอันเลิศว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างเป็นผู้ฉลาดในเตโชกสิณสมาบัติ

    ในตำนานกล่าวไว้ว่า ท่านเป็นพุทธอุปัฏฐากองค์หนึ่งด้วย ท่านพระสาคตะเถระดำรงชีพอยู่โดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย