"การภาวนานี้คือยาแก้กิเลส" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

 วิริยะ12  



 "การภาวนานี้คือยาแก้กิเลส"

" .. เวลามันยุ่งมาก เราจดจ่อทางคำภาวนาของเราให้มาก "เช่นพุทโธ" ใครชอบคำไหนก็ตาม ตามแต่จริตนิสัยชอบ "พุทโธ หรือธัมโม หรือสังโฆ" หรือธรรมบทอื่นใดก็ตาม ขอให้ถูกกับจริต ให้นำมาบริกรรม ให้จิตเกาะอยู่กับคำบริกรรมนั้น

ให้รู้อยู่กับนั้น เช่น "พุทโธ ๆ ก็ให้รู้อยู่กับพุทโธ" สติควบคุมอยู่นี้ มันอยากคิดไปไหน บังคับไว้ไม่ให้คิด คำว่าอยากคิดคือกิเลสละมันลากออกไป ให้อยาก ๆ นี่ละกำลังของกิเลส มันอยากให้คิดนั้นคิดนี้

มันอยากเราก็ไม่ออกไป "เราบังคับไว้ไม่ยอมให้มันออก นี่เรียกว่าบังคับกัน" ในเบื้องต้นเป็นอย่างนั้น บังคับไม่หยุด เอ้าทางนั้นอยากมาก ทางนี้ตั้งใจบังคับมากเข้า "สักเดี๋ยวสู้ทางธรรมไม่ได้ แล้วค่อยสงบเข้ามา" สงบเข้ามาแล้วแน่วนิ่งนะ สงบแน่ว "ความคิดความปรุงที่เป็นเรื่องของกิเลสสงบตัวไปด้วยอำนาจของการภาวนา"

"นี้แหละที่เรียกว่าน้ำดับไฟ" คือจิตฟุ้งซ่านรำคาญ ผสมกับกองทุกข์ไปในขณะเดียวกัน "เราภาวนาบีบบังคับ พอจิตสงบมันก็เป็นน้ำดับไฟ ใจสบาย โล่ง" พากันจำทุกคน .. "

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน 

5,615







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย