"หลวงปู่ขาว กับวิมุตติธรรม"
" .. เย็นวันหนึ่งเมื่อปัดกวาดเสร็จ ท่านออกจากที่พักไปสรงน้ำ
"ได้เห็นข้าวในไร่ชาวเขากำลังสุกเหลืองอร่าม" ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาในขณะนั้นว่า
"ข้าวมันงอกขึ้นมาเพราะมีอะไรเป็นเชื้อพาให้เกิด ใจที่พาให้เกิดตายอยู่ไม่หมดก็น่าจะมีอะไรเป็นเชื้ออยู่ภายในเช่นเดียวกับเมล็ดข้าว เชื้อนั้นถ้าไม่ถูกทำลายเสียที่ใจให้สิ้นไป จะต้องพาให้เกิดตายอยู่ไม่หยุด"
ก็อะไรเป็นเชื้อของใจเล่า
"ถ้าไม่ใช่กิเลส อวิชชา ตัณหา อุปาทาน" คิดทบทวนไปมา โดยถืออวิชชาเป็นเป้าหมายแห่งการวิพากษ์วิจารณ์
"พิจารณาย้อนหน้าถอยหลัง อนุโลมปฏิโลมด้วยความสนใจอยากรู้ตัวจริงแห่งอวิชชา" นับแต่หัวค่ำจนดึกไม่ลดละการพิจารณา ระหว่างอวิชชากับใจ
"จวนสว่างจึงตัดสินกันลงได้ด้วยปัญญา อวิชชาขาดกระเด็นออกจากใจไม่มีอะไรเหลือ"
การพิจารณาข้าว
"ก็มายุติทันทีข้าวสุกหมดการงอกอีกต่อไป การพิจารณาจิตก็มายุติกันที่อวิชาดับกลายเป็นจิตสุกขึ้นมาเช่นเดียวกับขัาวสุก จิตหมดการถือกำเนิดเกิดในภพต่าง ๆ อย่างประจักษ์ใจ สิ่งที่เหลือให้ชมอย่างสมใจ คือความบริสุทธิ์แห่งจิตล้วน ๆ ในกระท่อมกลางเขา" มีชาวป่าเป็นผู้อุปัฏฐากดูแล
ขณะที่จิตผ่านดงหนาป่ากิเลสวัฏฏ์ไปได้แล้ว
"เกิดความอัศจรรย์อยู่คนเดียวตอนสว่าง พระอาทิตย์ก็เริ่มสว่างบนฟ้า ใจก็เริ่มสว่างจากอวิชชาขึ้นสู่ธรรมอัศจรรย์ ถึงวิมุตติหลุดพ้นในเวลาเดียวกันกับพระอาทิตย์อุทัย" ช่างเป็นฤกษ์งามยามวิเศษเอาเสียจริง ๆ .. "
"ประวัติหลวงปู่ขาว อนาลโย"
โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-kao/lp-kao-hist-04.htm