เหตุที่ทำให้เกิดมาแตกต่างกัน (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
อย่างพระนางมัลลิกา อัครมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศลนี่ไปทูลถามพระพุทธเจ้านะ เพราะว่าพระนางมัลลิกานี้รูปร่างคล้ำ ดำ ขี้ร้าย ไม่สวยงามว่างั้นแต่มีปัญญาดี ไปทูลถามพระองค์ว่า บุคคลเกิดมาในโลกนี้ทำไมจึงมีความเป็นอยู่แตกต่างกัน บางคนก็รูปร่างขี้ร้าย บางคนก็รูปร่างสวยงาม บางคนก็มีอายุยืน บางคนก็มีอายุสั้น บางคนก็มีปัญญาเฉลียวฉลาด บางคนก็ไม่มีปัญญา อย่างนี้นะเพราะเหตุไรหนอ
พระองค์เจ้าจึงทรงตรัสว่า บุคคลใดชอบโกรธ ชอบอิจฉาริษยาผู้อื่น ชอบดูถูกดูหมิ่นผู้อื่นบ๊อยบ่อยอย่างนี้นะ บาปกรรมอันนั้นแหละว่างั้นตามตกแต่งเมื่อเกิดมาชาตินี้ทำให้มีรูปร่างขี้ร้ายขี้เหร่ ผิวคล้ำผิวดำ ไม่สวยไม่งามอย่างนี้ เป็นอย่างนี้ ตรงกันข้ามบุคคลใดไม่ชอบอิจฉาริษยาผู้อื่น ไม่ชอบดูถูกดูหมิ่นผู้อื่น ไม่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น มีจิตใจประกอบด้วยเมตตากรุณา มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่หน้าบึ้งหน้าตึงกับใครๆต่อใคร มีแขกคนไปหาก็ปราศรัยด้วยอัธยาศัยอันดี ข่มอารมณ์ในใจไว้ได้ ไม่หงุดหงิด ไม่ฉุนเฉียว เช่นนั้นแล้วบุคคลใดเกิดมาในโลกนี้ บุญกรรมอันนั้นมันมาตกแต่งให้เป็นคนมีรูปสวยรูปงาม นี้แหละคือว่าโทษแห่งความเป็นผู้โกรธนี้นะ มันทำให้รูปร่างขี้ร้ายขี้เหร่ ไม่สวยไม่งามเลย มันเป็นอย่างนั้น บุคคลที่ไม่สนใจในการสดับตรับฟัง ไม่ต้องการความรู้ความฉลาด ตนมีความรู้เท่าใดก็รู้อยู่เท่านั้นแหละ ไม่สนเลย ผู้อื่นพูดให้ฟังก็ไม่เอา อย่างนี้แล้วเกิดมาชาตินี้ก็เป็นคนอัดอั้นตันปัญญา ไม่มีความรู้ความฉลาดอะไร
ตรงกันข้ามแต่ชาติก่อนบุคคลใดสนใจในการเรียนการฟังการท่องการจำเอาวิชาความรู้ต่างๆจากนักปราชญ์บัณฑิตไปอย่างนี้ เกิดมาชาตินี้อานิสงส์ก็ส่งให้มาเกิดแล้วก็มีสติมีปัญญาเฉลียวฉลาดทั้งทางโลกและทางธรรม อย่างนี้ คนมีปัญญาน่ะเป็นอย่างนั้นให้เข้าใจ อย่าพากันเกียจคร้านในการสดับตรับฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่าเกียจคร้านในการคิด การพิจารณาธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าให้รู้ให้เข้าใจแจ่มแจ้งไว้ในใจของตน มันจะเป็นอุปนิสัยติดตามไปเมื่อตนยังไม่ถึงพระนิพพาน ไปเกิดในชาติใดก็จะเป็นคนมีสติปัญญา ฟังคำสอนพระพุทธเจ้าได้ง่ายดี มีปฏิภาณโวหารคล่องแคล่วดี อย่างนี้นะ ผู้มีอายุสั้นก็เพราะชอบเบียดเบียนชีวิตของบุคคลอื่นสัตว์อื่น ไม่เห็นโทษของการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อย่างนี้แหละ กรรมอันนั้นแหละมันจึงมาตัดรอนเอา เกิดมาในโลกอยู่ไปไม่ทันถึงอายุขัย ตายแล้ว บางคนก็ตายโหง
อันผู้มีอายุยืนยาวนานนั้นก็ตรงกันข้ามล่ะไป๊ เป็นผู้ไม่ชอบเบียดเบียนบุคคลอื่นสัตว์อื่น จริงอยู่ว่ามันไม่รู้ก็เบียดเบียนมา แต่พอได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วก็รู้แล้วอย่างนี้ก็ตั้งสัจจะอธิษฐานเลย ไม่เบียดเบียนบุคคลอื่นสัตว์อื่นต่อไปตลอดชีวิต เช่นนี้เมื่ออธิษฐานแล้วก็สำรวมระวังกายวาจาใจเรื่อยไป ไม่ไปเบียดเบียนบุคคลอื่นและสัตว์อื่นเลย อย่างนี้แล้วก็ทำบุญให้ทานข้าวน้ำโภชนอาหารไปอย่างนี้ อานิสงส์เหล่านี้เกิดไปชาติใดก็มีกำลังวังชาดีเพราะอานิสงส์ให้ข้าวน้ำเป็นทาน มีอายุยืนยาวนานเพราะอานิสงส์การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่นมันก็ไม่มีกรรมมีเวรอะไรมาตัดรอนชีวิตนี้ให้ล้มให้ตายไปก่อนจะถึงอายุขัย
พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้นางมัลลิกาฟัง เหตุนั้นคำสอนของพระองค์เรื่องนี้จึงได้ปรากฏมาในหนังสือพระไตรปิฎกจนถึงทุกวันนี้ ฉะนั้นจึงได้นำมาแสดงให้พุทธบริษัททั้งหลายฟัง เผื่อว่าผู้ที่ต้องการความสุขความเจริญแก่ตนแล้วจะได้ประพฤติปฏิบัติตามไป เมื่อประพฤติปฏิบัติตามไปมันต้องได้รับความสุขแน่นอนเลยทีเดียว ว่างั้นก็ลองพิจารณาดูซิ
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“ความประเสริฐสุดของพระพุทธศาสนา ”
ที่มา : http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=57805