"สยบโรคฝีดาษ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"สยบโรคฝีดาษ"
" .. "หลักใจก็คือหลักธรรม" ออกมาจากหลักธรรมมาเป็นหลักใจแล้วปฏิบัติตามนั้น ความร่มเย็นเป็นสุฃก็มี "บ้านน้อยเมืองใหญ่ถ้าที่ไหนมีศีลธรรม ที่นั้นสงบร่มเย็นดี"
พูดอันนี้ "ก็ทำให้ระลึกถึงปีที่คนเป็นโรคฝีดาษ ฝีดาษนี้ได้เกิดขึ้น บ้านใหญ่ ๆ หลังคาเป็นร้อย ๆ บ้านแตกสาแหรกขาดหนีเข้าไปอยู่ในป่า" คนหนีตายนั้น ไปอยู่ได้หมดทุกแห่ง ไม่ว่าพุ่มไม้ ไม่ว่าที่ไหน ๆ หาที่หลบที่ซ่อนตัวได้ยิ่งกว่าสัตว์ เวลาคนกลัวตายนี้ กลัวมากกว่าสัตว์ แตกบ้านแตกเมือง หมู่บ้าน เดียว ตายวันละ ๑๔-๑๕-๑๖ ศพ
เราเดินธุดงค์เที่ยวผ่านไปหมู่บ้านนั้น กับโยม ๒ คน คนเขาบอกว่า "จะไปที่หมู่บ้านนั้นทำไม ที่นั่นมีแต่ป่าช้าผีตาย" เราก็ว่า "ตัวเรานี่แหละ เป็นป่าช้าคนเป็น ถ้าไปจะเป็นอะไร?" เราผ่านเข้าไปตรงนั้น เห็นเขาตาย น่าสยดสยองกันทั้งบ้านทั้งเมือง โยม ๒ คนที่ไปด้วยเกิดความกลัว เราจึงว่า "ไป๊ เราไม่พากลัวไม่ต้องกลัว ความตายมันอยู่กับเรา ไม่ได้อยู่กับที่นั้นที่นี่แหละ" ถ้าเรายังมีลมหายใจ แสดงว่าไม่ตาย เดินไปเลย ผ่านไปตรงนี้เลย
มองดู ๒ ฟากทาง "บ้านเรือนเป็นร้อย ๆ หลังคาไร้ผู้คน แตกหนีเข้าไปอยู่ตามป่าตามพุ่มไม้" ตามที่ไหน ๆ ตามกอไผ่กอผา ที่ไหนหลบซ่อนได้ไปอยู่หมด นี่ละมันถึงได้มองเห็นชัดนะ เห็นจริง ๆ ประจักษ์ตา เขาก่อไฟเอาไว้ผู้ที่นอนตาย เฝ้ากองไฟก็มื ผู้ร้องครางอยู่ตามกองฟืนกองไฟก็มี เราปลูกกระท่อมไว้หลังเล็ก ๆ ไป อยู่กับบ้านน้อย ๙ หลังคาเรือน เขาก็พากันแตกไปหาเรา
นี่ก็แปลกอยู่นะ "ธรรมของพระพุทธเจ้า เห็นประจักษ์ ไม่ใช่อวดธรรม ไม่ใช่อวดตัวเอง เอาความจริงมาพูด นี่เราเห็นด้วยตา ไปก็ผ่านไปได้อย่างสบายไม่เป็นอะไรเลย" เราก็ไปวัดตอนเช้ากำลังจะฉันจังหัน พวกเขารุมเข้ามาถามว่า "เป็นยังไงท่าน ท่านสบายดีอยู่หรือ?”"
"จะเป็นอะไร ไปหาอะไรมาให้เรากิน เรากำลังหิวข้าว อย่ามาถามเรื่องความเป็น ความตาย" เราว่าอย่างนี้จากนั้นพวกนั้นก็รุมเข้ามา นี่ก็เป็นภาระหนักอยู่ รุมกันเข้ามาอยู่เต็มบ้านน้อย อยู่ตามร่มไม้ "แต่ก็เดชะนะไม่เป็นอะไรแม้สักคนเดียว ผู้ที่วิ่งเข้ามาก็หายจากโรคฝีดาษ" มันดลบันดาลอะไรนะ ธรรมของพระพุทธเจ้า ใครเป็นแล้วเขาห้ามไม่ให้เข้าเป็นอันขาดเลย นี่มันยังรอดเข้ามาได้ มาอยู่นั้น ก็จะทำยังไง ให้อยู่นั้นแหละจะเป็นอะไรไป เราบอก
"ทำกระต๊อบให้เขาอยู่เสีย ไม่ให้ออกมาเที่ยว" ก็เดชะนะไม่เป็นอะไรเลย ๒ คนนี้หายไม่ตาย แล้วพวกนั้นก็ไม่เป็นอะไร ทีนี้ตอนจะจากเขาไปละสิ โอ๊ย! น่าทุเรศจริง ๆ นะ ถึงเวลาเราจะเข้าป่าไปทางภูสิงห์ ภูวัว ไปเที่ยวป่าทางโน้นแหละ เราไปคนเดียว ถึงเวลาจะไปร้องห่มร้องไห้เหมือนเด็กน้อยว่า "จะมีที่พึ่งที่ไหน ท่านจากไปแล้วก็หมดที่พึ่งเสียแล้ว"
ไม่หมดที่พึ่งทางใจ "เอาพุทโธไว้นะ ให้จับพุทโธไว้ มีองค์ศาสดาอยู่ในหัวใจ แล้วไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว" นี่เราไป "เราก็ไปกับพุทโธ ก็ให้อยู่กับพุทโธนะ" เราก็บอกอย่างนี้
เดือนมิถุนายน บทเวลาเราย้อนกลับมา เราถามว่า "เป็นยังไงทางนี้" เขาบอกว่า "สบายดีอยู่ ไม่เป็นอะไร" ตั้งแต่นั้นมา "สบายหายหมด บ้านน้อย ไม่เป็นไรสักคนเดียว" นี่แหละท่านทั้งหลาย "อำนาจแห่งธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของเล่น ๆ ดับ ทุกข์เข็ญได้อย่างแท้จริง" .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
หลักธรรม-หลักความจริง หน้า ๒๑๐-๒๑๑