"ตายก็ตาย อยู่ก็อยู่" (หลวงปู่ลี กุสลธโร)
.
"ตายก็ตาย อยู่ก็อยู่"
" .. หลวงปู่ลีท่านสอนเด็ดขาดให้มีนิสัยกล้าหาญ ไม่ขี้ขลาดต่อความตาย ไม่เสียดายอาลัยชีวิต ท่านกล่าวว่า "แม้มีชีวิตอยู่ก็ยังไม่อาลัยเสียดาย ตายแล้วยังจักเสียดายอาลัยอะไรอีกเล่า!" อารมณ์ธรรมของท่าน คือการไม่ยึดถือ "ท่านยังเพ่งลึกไม่ยึดในอารมณ์ที่ไม่ยึดถือนั้นอีกด้วย ตายก็ตาย อยู่ก็อยู่" อย่ามาร้องครางคร่ำครวญโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือดได้อย่างไร
พระเป็นพระ "พระไม่ใช่หมูขึ้นเขียงให้กิเลสสับยำทำแกงหวานปากของมัน" ท่านทำตามโบราณบัณฑิต "ไม่ยุ่งยากเหมือนพระสมัยใหม่ อยู่ก็แห่ ตายก็แห่" สุดท้ายพากันแห่ไปลงหม้อนรกกันหมด สนุกไม่ออกก็ตอนแห่ลงหม้อนรกนี่แหละ
หลวงปู่ลี "ท่านทำตามพระพุทธเจ้าและพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของท่าน" ท่านไม่ลัดคิว ไม่แซงหน้าแซงหลัง ตรงไปตรงมา ธรรมของท่านจึงปลุกประสาทของ ผู้ปฏิบัติให้ตื่นตัวอยู่เสมอ ท่านสอนว่า "ปฏิบัติตัวเองให้ดี ไม่ต้องรอพวงหรีด โลงแก้ว โลงทอง ไม่ต้องให้ใครมาอ่านประวัติ บวชมาเพื่อปฏิบัติให้ตัวเองพ้นทุกข์ไปเท่านั้น" ฟังท่านพูดแล้วโล่งอกโล่งใจไปในสามแดนโลกธาตุแท้แล .. "
"ธรรมลี เศรษฐีธรรม"
(หลวงปู่ลี กุสลธโร)
พระอริยเจ้าผู้เป็นดั่งเศรษฐีธรรม