"ผู้ถึงไตรสรณาคมน์" (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)

 วิริยะ12  

.
 "ผู้ถึงไตรสรณาคมน์"

" .. "เราไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะที่พึ่ง" เราเอาพระรัตนตรัยทั้งสามนี้ "คือพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ" รัตนะแปลว่าแก้ว "แก้วคือพระพุทธเจ้า แก้วคือพระธรรม แก้วคือพระสงฆ์" เปรียบเหมือนกับแก้ว

"เราไม่นับถือสิ่งอื่นเป็นสรณะที่พึ่ง" ที่ระลึกที่กราบ ที่ไหว้ "เราพึ่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งสามประการนี้" เป็นที่กราบไหว้ "ผู้ที่ถึงไตรสรณาคมน์ คือผู้ถึงพระพุทธศาสนา ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ด้วยกายด้วยวาจาด้วยใจของเรา" พากันให้กราบให้ไหว้

"อรหัง" กล่าวถึงพระพุทธเจ้า "สวากขาโต" กล่าวถึงพระธรรม นมัสการพระธรรม "สุปฏิปันโน" กล่าวถึงพระอริยสงฆ์ "มอบกายถวายชีวิตต่อคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์แล้ว โทษที่หนักก็เบาไป โทษที่เบาก็หายไป" นี่มันเป็นเช่นนี้ "เมื่อเป็นผู้ถึงพระไตรสรณาคมน์เช่นนี้แล้ว เราต้องละเว้นเหตุสามสถาน"

- ข้อหนึ่ง "อย่าไปไหว้ผี เชื่อผีถือผีหรืออะไรก็ตาม ชั่วช้าลามกคือผี ไม่ดีคือผี อย่าไปนับถือมัน" ไม่รู้จักภาษาคือผีนี้แหละ "เราอย่าไปนบ อย่าไปกราบไหว้ผีทั้งหมด" นี่แหละให้พากันให้พึงรู้พึงเข้าใจต่อไป "ผู้ใดไปกราบผีไปไหว้ผีแล้ว พระไตรสรณาคมน์ท่านเศร้าหมอง เจ้าของเป็นบาป"

- ข้อสอง "อย่าถือมงคลตื่นข่าว ผู้ถึงพระไตรสรณาคมน์แล้ว ตื่นข่าวเป็นยังไงเล่าถือฤกษ์ยามดี" เคราะห์ดีเคราะห์ร้าย "ดูมดดูหมอ" ดูหมอดูต่าง ๆ ปลูกศาลเพียงตา "ลงเลขลงผา เสียเคราะห์สะเดาะนาม ผู้ถือมงคลตื่นข่าว"

ตื่นกันเฉย ๆ ว่า "มื้อนั้นไม่ดีมื้อนี้ดี มื้อนั้นจม มื้อนั้นฟู เมื่อนั้นพาล" ไม่เห็นอะไรจมอะไรฟูซักอย่าง เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว "เราต้องละเว้นเหล่านี้ จึงจะเป็นผู้ถึงพระไตรสรณาคมน์"

ถ้าผู้ใดปฏิบัติเช่นนั้นแล้ว "ขาดจากพระไตรสรณาคมน์ ขาดจากพุทธศาสนา พระไตรสรณาคมน์เศร้าหมอง เจ้าของเป็นบาป" เป็นเรื่องงมงาย

- ข้อสาม "อย่าถือตามศาสนาอื่นในคนพวกนอกศาสนา" ถ้าผู้ใดไปถือเช่นนั้นแล้วขาดจากศาสนา "ขาดจากพระไตรสรณาคมน์ เศร้าหมอง เจ้าของเป็นบาป" .. "

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร 

5,619







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย