"ประโยชน์ภายหน้า" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)

 วิริยะ12  

"ประโยชน์ภายหน้า"

.. ทางเกิดของประโยชน์ภายหน้า ..

" .. ประโยชน์ภายหน้า พระพุทธเจ้าทรงแสดงทางเกิดไว้ ๔ อย่าง คือ ..

๑. สัทธาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศรัทธา คือเชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ คือเชื่อในเรื่องความดีความชั่ว สำหรับทางพระพุทธศาสนา คือเชื่อความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเชื่อหลักกรรมตามคำสั่งสอนของพระองค์ เช่นตรัสว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นต้น

เพราะใครก็ตามที่นับถือความดี ก็ต้องมี ความเชื่อในหลักของกรรม ตามพระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้และเชื่อพระพุทธเจ้าด้วย คีอเชื่อว่าพระองค์ได้ตรัสรู้จริง
คำของพระองค์ต้องจริงแท้แน่นอน

๒. สีลสัมปทา ถึงพร้อมด้วยสืล คือรักษากาย วาจาเรียบร้อยดี ไม่มีโทษ เพราะงดเว้นจากโทษนั้น ๆ เมื่อมี ศรัทธาในหลักของกรรมด้งกล่าวแล้ว ก็ย่อมเว้นจากความชั่วได้ ตามความเชื่อของตน

๓. จาคสัมปทา ถึงพร้อมด้วยการบริจาค คือ สละให้ปัน เป็นการเฉลี่ยสุขให้แก่ผู้อื่น ได้แก่การบำเพ็ญ ประโยชน์แก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นการทำความดีอย่างหนึ่งด้งกล่าวแล้ว

๔. ปัญญาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยปัญญา รู้จัก บาปบุญคุณโทษ หรือความดีความชั่ว มีประโยชน์มิใช่ประโยชน์ เป็นต้น ปัญญาทำให้รู้จักเปรียบเทียบว่าอะไรเป็นอะไรด้งกล่าว และให้รู้จักค่าของบุญหรือคุณความดี ทำให้รู้จักเลือกเชื่อใน สิ่งที่ควรเชื่อ และทำให้รู้จักเลือกเว้นการที่ควรเว้น เลือก ประพฤติการที่ควรประพฤติ

"ทางเกิดประโยชน์ภายหน้า ๔ อย่างนี้ เป็นบุญกุศล คือความดีโดยตรง" เป็นเหตุสนับสนุนประโยชน์ปัจจุบันให้ มั่นคงถาวร และความดีที่แต่ละคนได้ทำไว้แล้วคราวหนึ่ง ๆ เรียกว่าเป็น "ปุพเพกตปุญญตา" (ความมีบุญที่ทำไว้ก่อน) "ย่อมเป็นคุณสมบัติประจำตน" ดังที่ เมื่อจะติดต่อการงานกับใครเป็นต้น ก็ต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติประการหนึ่ง "จึงเป็นตัวโชควาสนาอำนวยประโยชน์ให้ตามที่ต้องการ" .. "

"ชีวิตจะเป็นสุขได้อย่างไร"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

5,614







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย