"ศีล" ทำให้เป็นคนดีงามตราบเท่าชรา (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
สีลัง ยาวะ ชรา สาธุ
ศีลทำให้เป็นคนดีงามตราบเท่าชรา ดังนี้
ผู้ไม่มีศีลได้ชื่อว่าเป็นผู้สกปรก ดังท่านแสดงไว้ในเรื่องโทษของศีลว่า
ผู้ล่วงละเมิดในศีลข้อนั้นๆ นอกจากจะเป็นผู้สกปรก เดือดร้อนด้วยโทษนั้นๆ แล้ว
เมื่อตายไปแล้วจะต้องไปสู่ทุคติ มีนรกเป็นที่สุด เมื่อเสวยผลของกรรมนั้นพอควร
แล้ว จึงจะพ้นจากนรกนั้นมาเกิดเป็นคนแล้วได้รับเศษกรรมนั้นอีก ดังนี้ ...
๑ .. โทษของการฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ..
จะเป็นผู้มีอายุสั้นพลันตาย เป็นคนขี้โรค ทรมาน
รูปร่างก็น่าเกลียด ไม่มีใครเมตตาเอ็นดู
๒ ..โทษของการฉ้อโกง ลักขโมยของเขา ..
จะเป็นคนจนทรัพย์อับปัญญาอนาถาหาที่
พึ่งมิได้ หาทรัพย์มาไว้ได้ ก็จะมีแต่คนมาฉ้อโกง
ลักขโมยเอา และฉิบหายด้วยภัย ต่าง ๆ
๓ .. โทษของการประพฤติมิจฉาจาร ..
เมื่อได้ลูกเมียมาจะได้แต่คนว่ายากสอนยาก
ประพฤตินอกใจ ทำให้ชอกช้ำใจเป็นทุกข์มาก
๔ .. โทษของการกล่าวเท็จโกหกเป็นต้น ..
เมื่อเกิดมาเป็นคนพูดจาสิ่งใดไม่มีคนเชื่อ
ถ้อยฟังคำ มีแต่เขาจะมาหลอกลวงให้เสียทรัพย์
เสียดสีด่าว่าหยาบคายต่าง ๆ นานาเป็นต้น
๕ .. โทษของการดื่มสุราเมรัย ..
จะเป็นคนบ้านใบ้เสียจริตผิดมนุษย์
อีกทั้งเป็นคนโง่เขลา เบาปัญญาไม่น่าคบ
นี่โทษของการไม่ตกแต่งฝึกฝนอบรม กาย วาจา ใจ
ตามศีลธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้สกปรกเศร้าหมอง
ทั้งที่เป็นมนุษย์และละโลกนี้ไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้ จึงควรแต่งกาย วาจา ใจ
ให้สะอาดเสียตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
เพราะถ้าไม่สะอาดแต่เมื่อยังอยู่ในโลกนี้
ตายไปแล้วก็จะเป็นผู้สกปรกไม่สะอาดใน
โลกหน้าต่อไปอีก ดังแสดงมาแล้ว ..
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... x-page.htm